ค
ลำดับที่ 100. “คนจะดี ดีเมื่อผ้าอ้อมป้อก คนบ่ดี หงอกเต๋มหัวมันตึงบ่ดี”
หมายถึง.....คนมีนิสัยชอบโกหกตอแหลจะกลับเนื้อกลับตัวได้ยาก (แต่ไม่ถึงกับว่าจะกลับเนื้อกลับตัวไม่ได้ ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองว่าจะสำนึกหรือไม่ถ้าสังคมให้โอกาส)
การนำไปใช้ ระมัดระวังการคบคน อย่าเป็นคนโกหกตอแหล และควรให้โอกาสผู้อื่นกลับเนื้อกลับตัว
ลำดับที่ 101. “คนง่าวได้จ๋า หม้อแก๋งหนาได้เดือด”
หมายถึง.... คำพูดของคนรู้น้อย บางครั้งก็กินใจ เพราะพูดความจริง พูดอย่างตรงๆเป็นคำพูดที่มาจากใจ
กำบ่าเก่าจึงว่า “คนง่าวได้จ๋า หม้อแก๋งหนาได้เดือด”
การนำไปใช้ รับฟังความคิดเห็นหรือให้โอกาสทุกคน
ลำดับที่ 102. “คนฉลาด บ่ดีประมาทคนง่าว”
หมายถึง.....ไม่ควรดูถูกดูแควนผู้ที่มีความรู้น้อย
การนำไปใช้ รู้จักให้เกียรติผู้อื่น รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เขาอาจรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “มีความรู้ความฉลาด อย่าประมาทคนรู้น้อย”
ลำดับที่ 103. “คนตุ๊กบ่มี เศรษฐีบ่เกิด”
หมายถึง.....ยากดี มีหรือจน คนเราย่อมเกื้อหนุนกัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
การนำไปใช้ อย่าดูถูกผู้ยากไร้ ควรเอาใจใส่ ถ้าไม่มีคนจน ผู้เป็นนายก็ไม่ร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นมาได้
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า///เกิดมาพึ่งกัน”
ลำดับที่ 104. “คนมีผญา บ่ได้ปาหอบหิ้ว คนมีวิชา บ่ได้เป๋นคนขี้ริ้ว”
ลำดับที่ 105. “คนหล็วกได้กำจ๋า คนมีผญาแป๊เปิ้น”
หมายถึง....คนมีวิชาความรู้ มีสติปัญญา เฉลียวฉลาด ย่อมรู้จักการเจรจาโน้มน้าวใจคน และแก้ปัญหาต่างๆได้ลุล่วง สามารถนำความรู้ใช้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
การนำไปใช้ หมั่นศึกษาหาความรู้ในแขนงวิชาต่างๆอย่างลึกซึ้งจริงจัง จนนำไปใช้ประโยชน์ได้
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม///มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน”
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ความดีชนะทุกคน เหตุผลชนะทุกอย่าง”
ลำดับที่ 106. “คนหมั่นยากไร้ มีคนสงสาร คนคร้านแอวยาน ไผบ่ชอบหน้า”
หมายถึง.....คนยากจนแต่ขยันและชอบช่วยเหลือผู้อื่น ย่อมได้รับความรักความเมตตากว่าคนขี้เกียจ
การนำไปใช้ ขยันทำงาน ช่วยเหลือผู้คนทั่วไป เวลาลำบาก จะได้รับความช่วยเหลือตอบแทน
ลำดับที่ 107. “คนเฒ่าปากหวาน ลูกหลานฮัก คนเฒ่าปากนัก ลูกหลานจัง”
หมายถึง.....ปู่ ย่า ตา ยาย ที่ชอบจู้จี้ขี้บ่น บ่นในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ลูกหลานมักจะไม่ค่อยชอบ
การนำไปใช้ ผู้อาวุโสควรทำตัวเป็นที่รักของลูกหลาน พูดจาด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ ไม่จู้จี้ขี้บ่นจนเกินไป
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “คนแก่พูดอ่อนหวานลูกหลานรัก คนแก่ขี้บ่น ลูกหลานชัง”
ลำดับที่ 108. “คนหล็วกเปิ้นใจ้ คนใบ้เปิ้นดูแควน”
หมายถึง.....คนมีความรู้มากมักได้รับความเชื่อถือมีโอกาสทำงานหรือแสดงความคิดเห็นมากกว่าคนรู้น้อย
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “คนฉลาดเขาใช้ คนรู้น้อยเขาดูแควน”
ลำดับที่ 109. “คนหล็วกก๊าใกล้ คนใบ้ก๊าไกล๋ คนมีปัญญา นั่งก๊าหัวขั้นได”
หมายถึง.....คนมีความรู้ มีสติปัญญามักมีแนวทางประกอบอาชีพ หรือทำมาหากินใกล้บ้านของตนเอง กำบ่าเก่าจึงว่า “คนหล็วกก๊าใกล้ คนใบ้ก๊าไกล คนมีปัญญา นั่งก๊าหัวขั้นได”
การนำไปใช้ รู้จักใช้สติปัญญาในการประกอบอาชีพ อย่าใช้แต่แรงกาย
ลำดับที่ 110. “คนหลับลุกเจ๊า กิ๋นผักตางปล๋าย คนหลับลุกขวาย กิ๋นผักตางเก๊า”
หมายถึง.....คนกระตือรือร้น ขยันแต่เช้า (ไม่รอเวลาสาย) ย่อมพบความก้าวหน้าในชีวิต
การนำไปใช้ อย่ามัวรีรอในการทำงาน ไม่รอวันเวลา หรืออ้างว่ายังเช้าเกินไป
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ตื่นเช้าทานผักปลายยอดอ่อน ตื่นสายทานโคนต้น”
ลำดับที่ 111. “คนหนุ่มเอาเก๊า คนเฒ่าเอาปล๋าย”
หมายถึง.....การผ่อนแรงให้กับคนชราผู้สูงอายุ ตามสภาพความแข็งแรงของร่างกาย
การนำไปใช้ ในการทำงานควรรู้จักผ่อนแรงให้ผู้สูงวัย และสตรี
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ผ่อนหนักผ่อนเบา”
ลำดับที่ 112. “คนหมั่นต๋ายหลังด้าน คนคร้านต๋ายหลังหัก”
หมายถึง.....การสะสมงานไว้มากเกิน (เพราะขี้เกียจ) จนทำไม่ไหว จะเกิดผลเสียต่อตนเองและส่วนรวม
การนำไปใช้ ควรทำงานอย่างสม่ำเสมอ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ดินพอกหางหมู”
ลำดับที่ 113. “ควายบ่ต๋ายฟั่งปาดจิ๊น”
หมายถึง.....ลงมือทำในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่มีความพร้อมจริงจัง
การนำไปใช้ ควรวางแผนดูแลทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่จะลงมือ
ลำดับที่ 114. “เคร่งล้ำจ่างปุด”
หมายถึง....การเคร่งครัด เข้มงวดจนเกินไป ทำให้เกิดการต่อต้าน และส่งผลเสียต่องานส่วนรวมได้
การนำไปใช้ ควรผ่อนสั้นผ่อนยาว ผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่เคร่งครัดเกิน
ลำดับที่ 115. “ควายเฒ่าใคร่ต๋ายขำปง”
หมายถึง....การดันทุรังรนหาที่ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดผลร้ายกับตนเองอย่างแน่นอน
การนำไปใช้ อย่าดันทุรังหาเรื่องให้ตนเองลำบาก (ปง..คือหล่มโคลน เป็นดินอ่อนตัวมีความลึก มีหญ้าอ่อนขึ้นปกคลุม ควายแก่เคี้ยวหญ้าแก่ที่แข็งไม่ไหว จะไปหากินหญ้าอ่อนบริเวณหล่มโคลน ไม่ระวังจะตกจมลงไป ขึ้นเองไม่ได้ เจ้าของหาไม่พบ ก็ตายเพราะขาดอาหาร
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “โคแก่ชอบกินหญ้าอ่อน”
ลำดับที่ 116. “เคราะห์ฮอมฮ้าย ขี้ตู๋ดเป๋นหิด”
หมายถึง.....มีเคราะะห์กรรมมากระหน่ำซ้ำเติมไม่หยุดหย่อน
การนำไปใช้ เมื่อมีเรื่องร้ายๆอยู่แล้ว พยายามระวังตัวเอง อย่าไปหาเรื่องอีก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ผีซ้ำด้ำพลอย”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “เคราะห์หามยามร้ายเป็นเรื้อนและหิด”
ลำดับที่ 117. “ควันไฟไผห่อกุ้ม”
หมายถึง.....ความลับไม่มีในโลก
การนำไปใช้ อย่าทำความชั่ว แม้ไม่มีใครรู้เราก็ทุกข์ใจ ต้องคอยระวังปกปิด
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ความลับไม่มีในโลก”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ควันไฟใครห่อได้”
ลำดับที่ 118. “ครั่งใกล้ไฟ ไขใกล้แดด ญิงใกล้จาย ควายใกล้หญ้า”
หมายถึง.....สภาพที่เอื้อให้เกิดเหตุได้ง่ายดาย อาจเป็นอันตราย เกิดความเสียหาย เพราะมาอยู่ใกล้ชิดกัน
การนำไปใช้ ให้วางแผนป้องกันล่วงหน้า ถ้าเกิดเหตุแล้วอาจแก้ไขยาก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “น้ำตาลใกล้มด”
ลำดับที่ 119. “ใคร่เป๋นดี หื้อแล่นเข้าป่า ใคร่เป๋นหนี้เป๋นข้า หื้อแล่นเข้าฮั้วเข้าเวียง”
หมายถึง.....ควรดำรงชีวิตแบบพอเพียง รู้ประหยัดอดออม
การนำไปใช้ ให้รู้ประหยัดอดออม (คนสมัยก่อนจะได้อาหารต้องไปหาจากป่า ถ้าเข้าเมืองย่อมทำให้ยากจน และปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้า เราเข้าไปจับจ่ายอาจเพลิน โดยไม่คิดก่อนว่าต้องใช้หรือไม่ หรือเห็นอดจ่ายเงินไม่ได้ หรือใช้บัตรเครดิต เมื่อถึงกำหนดชำระต้องนำเงินมาชำระ เมื่อไม่มีก็ต้องไปกู้ยืม เป็นหนี้สิน เพราะเข้าไปในเมือง ถ้าเราดำรงชีวิตแบบพอเพียง ขยันทำกินตามสภาพความเป็นอยู่ของตนเอง กินอยู่อย่างประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ชีวิตย่อมเป็นสุข)
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “การก่อหนี้เป็นทุกข์ในโลก”
ลำดับที่ 120. “ใคร่เย็นหื้ออาบน้ำวังหิน ใคร่มีทรัพย์สินหื้อหมั่นก๊า ใคร่ขึ้นสวรรค์จั๊นฟ้า หื้อหมั่นฆ่าเจ้าเอาของ” ลด ละ เลิกกิเลส ( “ฆ่าเจ้าเอาของ” คือการทำลายกิเลส ตัณหา รัก โลภ โกรธ หลง ความอยากในใจตนเองให้หมดไป )
การนำไปใช้ ขยันทำกินและประพฤติตนถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
ลำดับที่ 121. “ใคร่กิ๋นนัก หื้อกิ๋นเต้ากิ่งก้อย ใคร่กิ๋นหน้อย หื้อกิ๋นเต้าหัวแม่มือ”
หมายถึง....อย่าเป็นคนละโมบโลภมาก
การนำไปใช้ อย่าโลภมาก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “โลภมากลาภหาย”
ลำดับที่ 122. “ใคร่ขี้ล่นหาขอน ใคร่นอนล่นหาสาด”
หมายถึง.....ไม่รู้จักวางแผนรับสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า เมื่อเกิดมีเรื่องจวนตัวต้องลำบากในการแก้ปัญหา
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ตำข้าวสารกรอกหม้อ”
ลำดับที่ 123. “ใคร่เวยหื้อกาน ใคร่นานหื้อแล่น”
หมายถึง....ต้องการให้เสร็จเร็วให้ค่อยๆทำไปพิจารณาไป ผิดพลาดก็แก้ไขไป อยากเสร็จช้าให้ทำเร็วๆ
การนำไปใช้ อยากได้ผลดี เรียบร้อย รวดเร็ว ต้องค่อยๆทำไปพิจารณาไป ถ้าเร่งรีบจะต้องแก้ไข
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ช้าๆได้พร้าเล่มงาม///ช้าเป็นการนานเป็นคุณ”
ลำดับที่ 124. “ใคร่หื้อเปิ้นฮัก หื้อหมั่นทำก๋าร ใคร่หื้อเปิ้นจัง หื้อหมั่นแอ่วเล่น”
หมายถึง.....คนขยันทำงาน และชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ย่อมเป็นที่รักของคนทั่วไป
กำบ่าเก่าจึงว่า “ใคร่หื้อเปิ้นฮัก หื้อหมั่นทำก๋าร ใคร่หื้อเปิ้นจัง หื้อหมั่นแอ่วเล่น”
การนำไปใช้ ขยันทำงาน ตั้งใจเรียน
ลำดับที่ 125. “ใคร่หื้อเปิ้นฮัก หื้ออู้ปากหวาน ใคร่ไป่ใคร่สาน หื้อถามคนเฒ่าคนแก่”
หมายถึง.....การพูดจาไพเราะหวานหูย่อมเป็นที่รักของคนทั่วไป ถ้าอยากจักสานควรศึกษาจากผู้สูงอายุ
การนำไปใช้ ควรพูดจาไพเราะ และถ้าอยากมีความรู้เรื่องการจักสานหรือเรื่องทั่วไปให้ปรึกษาผู้สูงวัย
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “พูดดีเป็นศรีแก่ปาก ”
ลำดับที่ 126. “ใคร่ฮู้หื้อถาม ใคร่งามหื้อแต้ม”
หมายถึง.....อยากมีความรู้มากๆให้หมั่นศึกษาหาความรู้ อยากสวยงามต้องเสริมแต่ง
การนำไปใช้ อยากมีความรู้ให้ศึกษาจากผู้รู้ ครูอาจารย์
