บ
ลำดับที่ 248. “บ่กิ๋นก็ปาก บ่อยากก็ใจ๋ หมั่นดักก็ไซ หมั่นใจก็แฮ้ว”
อ่าน (-บ่อ-กิ๋น-ก่อ-ปาก///บ่อ-หยาก-ก่อ-ใจ๋///หมั่น-ดัก-ก่อ-ไซ///หมั่น-ใจ-ก่อ-แฮ้ว-)
หมายถึง.....ไม่อาจตัดอกตัดใจทอดทิ้งไปได้ ยังมีความอยาก ความต้องการในสิ่งต่างๆอยู่
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่กิ๋นก็ปาก บ่อยากก็ใจ๋ หมั่นดักก็ไซ หมั่นใจก็แฮ้ว”
การนำไปใช้ รู้ปล่อยวาง อย่ายึดติด เพื่อตนเองจะได้พบความสุขในชีวิต
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ห่วงหาอาวรณ์”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่กินก็ปาก(มีความหิวโหย) ไม่อยากก็ใจ (ใจห่วงหา) ดักบ่อยก็ไซ (นำไซไปดักในน้ำอาจได้ปลา) ไปตรวจดูบ่อยๆก็แร้ว(อาจมีนกมาติดบ่วงแร้ว)”
ลำดับที่ 249. “บ่กิ๋นผักบ่มีเหยื้อต๊อง คนบ่เอาปี้เอาน้อง เสียหน่อเสียแนว”
อ่าน (-บ่อ-กิ๋น-ผัก- บ่อ-มี-เหยื้อ-ต๊อง///คน-บ่อ-เอา-ปี้-เอา-น้อง///เสีย-หน่อ-เสีย-แนว-)
หมายถึง…..คนที่ไม่เอาใจใส่ ไม่ช่วยเหลือ ไม่ไต่ถามสารทุกข์สุขดิบของญาติพี่น้อง เป็นคนใช้ไม่ได้
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่กิ๋นผัก บ่มีเหยื้อต๊อง คนบ่เอาปี้เอาน้อง เสียหน่อเสียแนว”
การนำไปใช้ ให้ดูแลเอาใจในทุกข์สุขของญาติพี่น้อง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เลือดข้นกว่าน้ำ”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่กินพืชผักไร้กากอาหาร คนไม่สนใจทุกข์สุขญาติเป็นคนใช้ไม่ได้ ”
ลำดับที่ 250. “บ่ใคร่จ่ายเงินนัก หื้อปลูกผักไว้กิ๋น ถ้าใคร่เป๋นหนี้เป๋นสิน หื้อเอาตึงแปะตึงยืม”
อ่าน(-บ่อ-ใค่-จ่าย-เงิน-นัก/หื้อ-หมั่น-ปูก-ผัก-ไว้-กิ๋น/ถ้า-ใค่-เป๋น-หนี้-เป๋น-สิน/หื้อ-เอา-ตึง-แปะ-ตึง-ยืม-)
หมายถึง.....อยากประหยัดค่าใช้จ่ายควรพึ่งตนเองในทางที่ทำได้ (ทำสวนผัก/เลี้ยงสัตว์) ส่วนการไปซื้อเชื่อหรือยืมเงินคนอื่นมาใช้ ทำให้เป็นหนี้สินรุงรัง
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ใคร่จ่ายเงินนัก หื้อปลูกผักไว้กิ๋น ถ้าใคร่เป๋นหนี้เป๋นสิน หื้อเอาตึงแปะตึงยืม”
การนำไปใช้ ควรประหยัดถ้าไปก่อหนี้ครอบครัวจะลำบาก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “การก่อหนี้เป็นทุกข์ในโลก”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่อยากเปลืองเงิน ปลูกผักไว้กิน อยากเป็นหนี้สิน ให้เชื่อให้ยืม”
ลำดับที่ 251. “บุบหมา ผ่อหน้าเจ้า” อ่าน (-บุบ-หมา-ผ่อ-หน้า-เจ้า-)
หมายถึง.....การละเมิดทรัพย์สินของผู้อื่นควรเกรงใจเจ้าของ
กำบ่าเก่าจึงว่า “บุบหมา ผ่อหน้าเจ้า”
การนำไปใช้ อย่าละเมิด ล่วงเกิน หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้อื่น
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “จะตีหมา ให้ดูหน้าเจ้าของ”
ลำดับที่ 252. “บ่ดีกิ๋นของสังฆะ บ่ดีละกำป้อแม่”
อ่าน (-บ่อ-ดี-กิ๋น-ของ-สัง-คะ///บ่อ-ดี-ละ-กำ-ป้อ-แม่-)
หมายถึง.....อย่าทานอาหารที่มีคนนำมาถวายพระสงฆ์ และคำสั่งสอนของบิดามารดาให้ยึดถือไว้ประจำใจ
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ดีกิ๋นของสังฆะ บ่ดีละกำป้อแม่”
การนำไปใช้ อย่าละเมิดของพระสงฆ์ และต้องเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “อย่าทานอาหารพระ ไม่ละลืมคำสอนพ่อแม่”
ลำดับที่ 253. “บ่หันส้มน้ำลายบ่ปุ๊” อ่าน (-บ่อ-หัน-ส้ม///น้ำ-ลาย-บ่อ-ปุ๊-)
หมายถึง.....ไม่ทราบว่าจะได้รับผลประโยชน์คุ้มค่าหรือไม่ ทำให้ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่หันส้มน้ำลายบ่ปุ๊”
การนำไปใช้ ควรจูงใจด้วยการบอกผลประโยชน์ตอบแทนให้ทราบ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่เห็นผลไม้รสเปรี้ยว น้ำลายไม่กระฉอก”
ลำดับที่ 254.“บ่ได้จิ้นบ่ฟัน บ่ได้สันบ่ลาบ” อ่าน(-บ่อ-ได้-จิ๊น-บ่อ-ฟัน///บ่อ-ได้-สัน-บ่อ-ลาบ-)
หมายถึง.....มีความตั้งใจแน่วแน่ มีความมุ่งมั่นสูง ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคจนกว่าจะประสบความสำเร็จ กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ได้จิ้นบ่ฟัน บ่ได้สันบ่ลาบ”
การนำไปใช้ มุ่งมั่นทำงานให้สำเร็จ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “หมายมั่นปั้นมือ”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “เนื้อไม่สดไม่ฟัน ไม่ได้เนื้อสัน(เนื้อส่วนที่นิ่ม) ไม่สับให้แผลก”
ลำดับที่ 255. “บ่ดีกิ๋นก่อนตาน บ่ดีมานก่อนแต่ง”
อ่าน (-บ่อ-ดี-กิ๋น-ก่อน-ตาน//บ่อ-ดี-มาน-ก่อน-แต่ง)
หมายถึง.....เป็นหญิงอย่ายินยอมให้ชายมีสัมพันธ์ทางกายต้องผ่านพิธีแต่งงานตามจารีตประเพณีที่ดีงาม
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ดีกิ๋นก่อนตาน บ่ดีมานก่อนแต่ง”
การนำไปใช้ อาหารที่จะนำไปถวายพระ อย่านำมาทาน และหญิงสาวอย่าให้ชายล่วงเกิน จนกว่าจะแต่ง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “สุกก่อนห่าม///ไม้งามกระรอกเจาะ”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “อย่ากินก่อนถวายทาน ต้องแต่งงานก่อนถูกล่วงเกิน”
ลำดับที่ 256. “บ่ดีอวดสูงกว่าป้อแม่ บ่ดีอวดแก่กว่าอาจารย์”
อ่าน (-บ่อ-ดี-อวด-สูง-กว่า-ป้อ-แม่///บ่อ-ดี-อวด-แก่-กว่า-อา-จ๋าน-)
หมายถึง.....อย่าอวดฉลาด อวดมีความรู้มีความสามารถ มีตำแหน่งหน้าที่สูงกว่า บิดา มารดา ครู อาจารย์ กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ดีอวดสูงกว่าป้อแม่ บ่ดีอวดแก่กว่าอาจารย์”
การนำไปใช้ ให้เคารพบิดามารดาครูอาจารย์
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เป็นผู้น้อยค่อยก้มประนมกร///ยกตนข่มท่าน”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “อย่าอวดรู้กว่าครูอาจารย์”
ลำดับที่ 257. “บ่ดีจ๋าควายกล๋างหนอง”อ่าน (-บ่อ-ดี-จ๋า-ควาย-ก๋าง-หนอง-)
หมายถึง.....ถ้าขาดความรู้เรื่องนั้นๆอย่างแท้จริง หรือไม่มีข้อมูลครบถ้วน ไม่ควรรีบตกลงในการเจรจา
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ดีจ๋าควายกล๋างหนอง”
การนำไปใช้ ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนจึงค่อยตัดสินใจ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “รู้งูๆปลาๆ///รู้อย่างเป็ด”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “อย่ารีบซื้อขาย ควายที่แช่น้ำ ”(ไม่เห็นตัว//ซื้อตัวเล็กต้องเสียเปรียบ)
ลำดับที่ 258. “บ่ดีจ่อมเบ็ดมาเลี้ยงแขก แบกหน้าไม้มาเลี้ยงจาวเฮือน”
อ่าน (-บ่อ-ดี-จ่อม-เบ็ด-มา-เลี้ยง-แขก///แบก-หน้า-ไม้-มา-เลี้ยง-จาว-เฮือน-)
หมายถึง.....ไม่ควรทำเรื่องจวนตัวโดยขาดการเตรียมพร้อม หรือชอบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
กำบ่าเก่าจึงว่า “จะไปจ่อมเบ็ดมาเลี้ยงแขก แบกหน้าไม้มาเลี้ยงจาวเฮือน”
การนำไปใช้ ไม่รอแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ไม่เห็นน้ำตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอกก่งหน้าไม้”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “อย่าตกเบ็ดมาเลี้ยงแขก อย่าแบกหน้าไม้เลี้ยงชาวบ้าน”
ลำดับที่ 259. “บ่ดีละตางหลังเป๋นหย่อมหญ้า เอาตางหน้าเป๋นหอเป๋นเฮือน”
อ่าน (-บ่อ-ดี-ละ-ตาง-หลัง-เป๋น-หย่อม-หย้า///เอา-ตาง-หน้า-เป๋น-หอ-เป๋น-เฮือน-)
หมายถึง.....อย่าทอดทิ้งลูกเมียให้ลำบาก ตนเองหนีไปมีครอบครัวใหม่สุขสบายแต่ผู้เดียว
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ดีละตางหลังเป๋นหย่อมหญ้า เอาตางหน้าเป๋นหอเป๋นเฮือน”
การนำไปใช้ ให้คิดถึงคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข ก่อร่างสร้างตัวกันมา
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ตัดช่องน้อยแต่พอตัว”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “อย่าทิ้งข้างหลังให้เป็นป่าหญ้า ไปรับข้างหน้าเป็นบ้านเรือน”
ลำดับที่ 260. “บ่ดีจู๋งผีไต่ขัว” อ่าน (-บ่อ-ดี-จู๋ง-ผี-ไต่-ขัว-)
หมายถึง…..อย่าทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือเกินกำลังความสามารถของตน
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ดีจู๋งผีไต่ขัว”
การนำไปใช้ อย่าฝืนทำสิ่งที่เกินความสามารถของคนทั่วไปจะทำได้
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เป็นไปไม่ได้”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “อย่าจูงผีไต่สะพาน ”
ลำดับที่ 261. “บ่ดีเอาลูกนกมาดู บ่ดีเอาลูกหนูมาเล่น ขนหล่นไปเส้น เป๋นเวรเต้าต๋าย”
อ่าน (-บ่อ-ดี-เอา-ลูก-นก-มา-ดู//บ่อ-ดี-เอา-ลูก-หนู-มา-เล่น//ขน-หล่น-ไป-เส้น//เป๋น-เวน-เต้า-ต๋าย-)
หมายถึง.....ควรมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ดีเอาลูกนกมาดู บ่ดีเอาลูกหนูมาเล่น ขนหล่นไปเส้น เป๋นเวรเต้าต๋าย”
การนำไปใช้ อย่าเห็นชีวิตสัตว์เป็นของเล่น
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “อย่านำลูกนกลูกหนูมาเล่น ขนหล่นหนึ่งเส้น เป็นเวรกรรมจนเราตาย ”
ลำดับที่ 262. “บ่ตันนั่งจะไปฟั่งเหยียดแข้ง”
อ่าน (-บ่อ-ตัน-นั่ง-จะ-ไป-ฟั่ง-เหยียด-แข้ง-)
หมายถึง.....ยังไม่ลงมือทำอย่ารีบคุยโม้โอ้อวดความสำเร็จ
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ตันนั่งจะไปฟั่งเหยียดแข้ง”
การนำไปใช้ อย่าโอ้อวดความสำเร็จในผลงาน
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ยกหางตนเอง///หมาขี้ไม่มีใครยกหาง”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่ทันนั่งอย่ารีบเหยียดแข้ง” (ตามปกติต้องนั่งก่อนจึงจะเหยียดแข้งได้)
ลำดับที่ 263. “บ่ดีอู้นัก ขี้ควายหลามหาง รถบ่มียาง เตียวตางบ่ได้”
(-บ่อ-ดี-อู้-นัก-ขี้-ควาย-หลาม-หาง///รถ-บ่อ-มี-ยาง-เตียว-ตาง-บ่อ-ได้)
หมายถึง….อย่าพูดมากความ มากเรื่องจนเกินไป อาจนำไปขยายความทำให้เข้าใจผิดกันได้
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ดีอู้นัก ขี้ควายหลามหาง รถบ่มียาง เตียวตางบ่ได้”
การนำไปใช้ อย่าพูดมากจนเกินไป อย่าพูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “พูดดีเป็นศรีแก่ปาก ”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “พูดมากดั่งขี้ควายที่เปรอะเต็มหาง รถไร้ยางแล่นตามทางไม่ได้”
ลำดับที่ 264.“บ่เล่นก็บ่ม่วน บ่มีค่วนก็บ่มีตี้ไว้ครัว บ่มีผัวก็บ่มีคนร่วมข้าง ใจ๋บ่กว้างปี้น้องบ่หลาย”
อ่าน(-บ่อ-เล่น-ก่อ-บ่อ-ม่วน///บ่อ-มี-ค่วน-ก่อ-บ่อ-มี-ตี้-ไว้-คัว//บ่อ-มี-ผัว-ก่อ-บ่อ-มี-คน-ร่วม-ข้าง///ใจ๋-บ่อ-กว้าง-ปี้-น้อง-บ่อ-หลาย-)
หมายถึง.....ไม่หยอกกันก็ไม่สนุก คนไร้คู่ย่อมอยู่อ้างว้าง คนตระหนี่มักไม่มีใครอยากมาคบ
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่เล่นก็บ่ม่วน บ่มีค่วนก็บ่มีตี้ไว้ครัว บ่มีผัวก็บ่มีคนร่วมข้าง ใจ๋บ่กว้างปี้น้องบ่หลาย”
การนำไปใช้ หยอกล้อกันบ้างเพื่อคลายเครียด หนุ่มสาวควรหาคู่เคียงข้าง อยากมีเพื่อนฝูงต้องใจกว้าง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่เล่นหยอกล้อ ไม่สนุกสนาน ไร้หิ้งเพดาน ไม่มีที่ไว้ของ ขาดสามีไร้คู่เคียงข้าง ถ้าใจไม่กว้าง ย่อมขาดญาติมิตร” (สมัยก่อนบ้านในชนบทจะทำค่วนหรือหิ้งเพดาน โดยการนำไม้ไผ่มาสานเป็นตาๆติดตั้งไว้เหมือนเพดานบ้าน ใช้เก็บของ)
ลำดับที่ 265. “บ่มีเงินหมื่น บ่ดีลื่นตุ๊เจ้า บ่มีไก่เต๋มเล้า บ่ดีลื่นเจ้าลื่นนาย”
(-บ่อ-มี-เงิน-หมื่น///บ่อ-ดี-ลื่น-ตุ๊-เจ้า///บ่อ-มี-ไก่-เต๋ม-เล้า///บ่อ-ดี-ลื่น-เจ้า-ลื่น-นาย-)
หมายถึง.....อย่าดูถูกคนอื่น ควรดูตนเองเสียก่อน
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่มีเงินหมื่น บ่ดีลื่นตุ๊เจ้า บ่มีไก่เต๋มเล้า บ่ดีลื่นเจ้าลื่นนาย”
การนำไปใช้ ให้ระวังกาย วาจา ใจ อย่าดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่มีเงินหมื่น อย่าหมิ่นพระสงฆ์เจ้า ไก่ไม่เต็มเล้า อย่าล้อเล่นเจ้านาย”
ลำดับที่ 266. “บ่นับตุ๊พระ หื้อนับผ้าเหลือง บ่นับต๋อเฟือง หื้อนับเม็ดข้าว บ่นับคนหนุ่ม หื้อนับคนเฒ่า ตี้ชราแก่ค้าว”
อ่าน (-บ่อ-นับ-ตุ๊-พระ///หื้อ-นับ-ผ้า-เหลือง///บ่อ-นับ-ต๋อ-เฟือง///หื้อ-นับ-เม็ด-เข้า///
บ่อ-นับ-คน-หนุ่ม///หื้อ-นับ-คน-เถ้า///ตี้-ชะ-รา-แก่-ค้าว-)
หมายถึง…..การพิจารณาให้ลึกซึ้งถึงแก่นแท้ความดีงามที่แฝงอยู่ภายใน ไม่ดูแค่เปลือกนอก
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่นับตุ๊พระ หื้อนับผ้าเหลือง บ่นับต๋อเฟือง หื้อนับเม็ดข้าว บ่นับคนหนุ่ม
หื้อนับคนเฒ่า ตี้ชราแก่ค้าว”
การนำไปใช้ ให้พิจารณาลึกเข้าไปถึงคุณค่าที่แฝงอยู่ ไม่ดูแค่เปลือกที่ห่อหุ้ม หรือรูปกายภายนอก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่กราบพระสงฆ์ ให้เคารพผ้าเหลือง ไม่สนตอฟางเรือง ควรใส่ใจเมล็ดข้าว ไม่เชื่อคนหนุ่ม ให้เคารพผู้เฒ่า ผู้สูงวัยมากความรู้”
ลำดับที่ 267. “บ่มีจ้อนตุ๊กข์ยามกิ๋นแก๋ง บ่มีเมียแปงตุ๊กข์ยามเจ็บไข้ บ่มีเงินไว้ตุ๊กข์ยามชราโซ”
อ่าน(บ่อ-มี-จ้อน-ตุ๊ก-ยาม-กิ๋น-แก๋ง///บ่อ-มี-เมีย-แปง-ตุ๊ก-ยาม-เจ็บ-ไข้///บ่อ-มี-เงิน-ไว้-
ตุ๊ก-ยาม-ชะ-รา-โซ)
หมายถึง.....ถ้าไร้คู่ยามป่วยไข้ไม่มีคนคอยดูแล วัยหนุ่มสาวไม่ขยันหาเงินออมไว้ ย่างวัยชราจะลำบาก
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่มีจ้อน ตุ๊กข์ยามกิ๋นแก๋ง บ่มีเมียแปง ตุ๊กข์ยามเจ็บไข้ บ่มีเงินไว้ ตุ๊กข์ยามชราโซ” การนำไปใช้ ควรมีคู่ครองไว้ดูแลกันยามป่วยไข้และหนุ่มสาวต้องขยันทำกินเก็บออมเงินไว้ใช้ยามชรา
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ลำบากตอนหนุ่ม ดีกว่ากลุ้มตอนแก่”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่มีช้อนลำบากตอนอยากน้ำแกง ไม่มีภรรยาลำบากตอนป่วยไข้
ไม่ออมเงินไว้ ลำบากตอนย่างวัยชรา
ลำดับที่ 268. “บ่ตันเข้าป่าหันงูเขียว” อ่าน (-บ่อ-ตัน-เข้า-ป่า-หัน-งู-เขียว-)
หมายถึง.....คนใจเสาะยังไม่ทันได้ลงมือทำก็กลัวจนเกินเหตุ
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่ตันเข้าป่าหันงูเขียว”
การนำไปใช้ อย่ากลัวจนเกินเหตุ ควรพิจารณาด้วยเหตุผล
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ตีตนก่อนไข้ ///กระต่ายตื่นตูม///ใจปลาซิว ”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่ทันเข้าป่าเห็นงูเขียว”
ลำดับที่ 269. “บ่มีหื้อหา บ่มาหื้อเซาะ” อ่าน (-บ่อ-มี-หื้อ-หา///บ่อ-มา-หื้อ-เซาะ-)
หมายถึง.....ควรขยันหาเงินมาไว้ใช้จ่ายในปัจจุบัน และเก็บออมไว้เผื่ออนาคตข้างหน้า
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่มีหื้อหา บ่มาหื้อเซาะ”
การนำไปใช้ หมั่นทำงานหาเงินเก็บออมไว้ใช้ยามจำเป็น
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่มีเงินให้รีบหา (ขยันทำงาน) ”
ลำดับที่ 270. “บ่มีฝอยหมาบ่ขี้ บ่มีหนี้เปิ้นบ่ถาม”
อ่าน (-บ่อ-มี-ฝอย-หมา-บ่อ-ขี้///บ่อ-มี-หนี้-เปิ้น-บ่อ-ถาม-)
หมายถึง.....เรื่องไม่จริงคงไม่ใครนำมาเล่าขาน ไม่มีหนี้เขาคงไม่มาทวง
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่มีฝอย หมาบ่ขี้ บ่มีหนี้ เปิ้นบ่ถาม”
การนำไปใช้ พิจารณาเรื่องต่างๆที่ได้ฟังมาอาจมีมูลความจริง และอย่าก่อหนี้
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่มีฝอย หมาไม่ขี้ ไม่เป็นหนี้ ไม่มีใครทวง”
ลำดับที่ 271. “บ่มีมาร สมปานบ่แก่ ลูกหลานบ่ฟังกำป้อแม่ ยากนักจักได้เป๋นคนดี”
(-บ่อ-มี-มาน/สม-ปาน-บ่อ-แก่/ลูก-หลาน-บ่อ-ฟัง-กำ-ป้อ-แม่/ยาก-นัก-จัก-ได้-เป๋น-คน-ดี-)
หมายถึง.....ลูกที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา ยากจะได้เป็นคนดี หรือพบความสำเร็จในชีวิต
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่มีมาร สมปานบ่แก่ ลูกหลานบ่ฟังกำป้อแม่ ยากนักจักได้เป๋นคนดี”
การนำไปใช้ น้อมรับคำตักเตือนสั่งสอนของบิดามารดาไว้แล้วนำไปสั่งสอนลูกหลานตนต่อไป
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่มีมาร(กิเลส/ตัณหา/ราคะ)สมภารไร้บารมี(ไม่บรรลุการบำเพ็ญธรรม) ลูกไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา ยากที่จะพบความเจริญก้าวหน้า”
ลำดับที่ 272. “บ่าหินไหลไคลคู้บ่ป้อ บ่ดีเอาไม้อ้อ ไปกะหลัดแข้งจ๊าง”
อ่าน (-บ่า-หิน-ไหล-ไค-คู้-บ่อ-ป้อ///บ่อ-ดี-เอา-ไม้-อ้อ///ไป-กะ-หลัด-แข้ง-จ๊าง-)
หมายถึง.....อย่าแข่งบุญวาสนา ท้าทายผู้มีอำนาจ หรืออวดรวยแข่งกับเศรษฐีมีเงิน
กำบ่าเก่าจึงว่า “บ่าหินไหล ไคลคู้บ่ป้อ บ่ดีเอาไม้อ้อไปกะหลัดแข้งจ๊าง”
การนำไปใช้ รู้ประมาณตน รู้ความสามารถตนเอง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “หินกลิ้งตามน้ำ ตะไคร่ไม่เกาะ เรื่องที่ไม่เหมาะ นำต้นอ้อขัดขาช้าง”
ลำดับที่ 273. “ใบบัวห่อจ๊าง ต๊างนาซ่อนหอย เส้นผมบังดอย ตี้ไหนจักกุ้ม จักเอาวัตถา
สิ่งใดหี่หุ้ม ปิดบังควันไฟนั้นไว้” อ่าน (-ใบ-บัว-ห่อ-จ๊าง//ต๊าง-นา-ซ่อน-หอย//เส้น-ผม-บัง-ดอย//ตี้-ไหน-จัก-กุ้ม//จัก-เอา-วัด-ถา//สิ่ง-ใด-หี่-หุ้ม///ปิด-บัง-ควัน-ไฟ-นั้น-ไว้-)
หมายถึง.....ความลับไม่มีในโลก
กำบ่าเก่าจึงว่า “ใบบัวห่อจ๊าง ต๊างนาซ่อนหอย เส้นผมบังดอย ตี้ไหนจักกุ้ม จักเอาวัตถา สิ่งใดหี่หุ้ม ปิดบังควันไฟนั้นไว้”
การนำไปใช้ ทำแต่ความดี จะได้ไม่ทุกข์ใจที่ต้องปิดบังความลับไว้และเมื่อถูกเปิดเผยเราต้องลำบาก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ความลับไม่มีในโลก”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “เอาใบบัวห่อช้าง (ห่อไม่มิด) นำหอยไปซ่อนตรงทางน้ำไหลเข้านา
(หอยย่อมไหลโผล่ออกมา) เอาเส้นผมไปบังภูเขา (บังไม่มิด) แล้วจะนำสิ่งใดเล่า ไปห่อควันไฟ”
ลำดับที่ 274. “บาปอยู่ตี้คนจ๋ำ ก๋ำอยู่ตี้คนสร้าง”
อ่าน (-บาบ-หยู่-ตี้-คน-จ๋ำ///ก๋ำ-หยู่-ตี้-คน-สร้าง-)
หมายถึง.....บาปตกอยู่กับผู้แนะนำ ผู้กระทำรับกรรมเวร
กำบ่าเก่าจึงว่า “บาปอยู่ตี้คนจ๋ำก๋ำอยู่ตี้คนสร้าง”
การนำไปใช้ อย่าสร้างบาปกรรม หมั่นทำแต่ความดี มีใจเมตตากรุณา
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “วัวใครเข้าคอกคนนั้น///กงเกวียนกำเกวียน”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “บาปตกแก่ผู้สั่งให้ทำ กรรมอยู่ที่ผู้ลงมือ”
ลำดับที่ 275. “โบราณว่าไว้ เยี๊ยะไฮ่นาขวาย จั่งเสียแฮงควาย บ่มูลมั่งข้าว”
อ่านเ (-โบ-ราน-ว่า-ไว้ ///เยี๊ยะ-ไฮ่-นา-ขวาย///จั่ง-เสีย-แฮง-ควาย///บ่อ-มูน-มั่ง-ข้าว-)
หมายถึง....การทำกิจการในเวลาที่ไม่เหมาะสมตามฤดูกาล ทำให้ไม่ได้รับผลประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย กำบ่าเก่าจึงว่า “โบราณว่าไว้ เยี๊ยะไฮ่นาขวาย จั่งเสียแฮงควาย บ่มูลมั่งข้าว”
การนำไปใช้ ทำตามฤดูกาลที่เหมาะสม
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เสียเวลาเปล่า”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง“ทำนาไม่ต้องตามฤดูกาล จะเสียแรงควายเปล่าเพราะได้ข้าวน้อย”