ลำดับที่ 385. “ยามเป๋นดี มีเก้าป้าสิบป้า เสื้อปุดหลังขาดหน้า ป้าคนเดียวก็บ่หัน”
อ่าน (-ยาม-เป๋น-ดี/มี-เก้า-ป้า-สิบ-ป้า/เสื้อ-ปุด-หลัง-ขาด-หน้า/ป้า-คน-เดียว-ก่อ-บ่อ-หัน-)
หมายถึง....ถึงครายากจนตกอับไม่ได้รับความช่วยเหลือจากญาติพี่น้อง
กำบ่าเก่าจึงว่า “ยามเป๋นดี มีเก้าป้าสิบป้า เสื้อปุดหลังขาดหน้า ป้าคนเดียวก็บ่หัน”
การนำไปใช้ ขยันทำงานมีความอดทน ทำมาหากินเก็บออมทรัพย์ไว้ใช้ ยามยากจนไปขอความช่วยเหลือจะลำบากใจ แม้กับญาติพี่น้อง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ เมื่อมั่งมี มากมาย มิตรหมายมอง เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา เมื่อมีมั่ง มากมิตร เมียงมองมา เมื่อมอดม้วย มิตรหมาหมา ไม่มามอง”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง) “ยามร่ำรวย มากมีเครือญาติ ยากจนเงินขาด ญาติเราไม่สน”
ลำดับที่ 386. “ยามมีกิ๋นติกๆ ยามบ่มีพับต๋าหยิบๆ”
อ่าน (-ยาม-มี-กิ๋น-ติก-ติก///ยาม-บ่อ-มี-พับ-ต๋า-หยิบ-หยิบ-)
หมายถึง.....ยามมั่งมีใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ถึงคราวตกอับไร้เงินทองก็จนปัญญา คิดแก้ปัญหาไม่ออก
กำบ่าเก่าจึงว่า “ยามมีกิ๋นติกๆยามบ่มีพับต๋าหยิบๆ”
การนำไปใช้ ควรประหยัดอดออม ชอบกินล้างกินผลาญ ถึงคราวยากจนคนจะสมน้ำหน้า
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “กินล้างกินผลาญ”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “มั่งมีจ่ายไม่ยั้ง หมดตัวมานั่ง ทำตาปริบๆ ”
ลำดับที่ 387. “ยามหนุ่มหื้อขะใจ๋หา เฒ่ามาจะได้นอนสะแกงผ่อ”
อ่าน (-ยาม-หนุ่ม-หื้อ-ขะ-ใจ๋-หา///เถ้า-มา-จะ-ได้-นอน-สะ-แกง-ผ่อ-)
หมายถึง..... วัยหนุ่มสาวมีกำลังแข็งแรงขยันทำงานเก็บออมเงินไว้ ย่างวัยชราจะสบาย
กำบ่าเก่าจึงว่า “ยามหนุ่มหื้อขะใจ๋หา เฒ่ามาจะได้นอนสะแกงผ่อ”
การนำไปใช้ หาเงินทองออมไว้ตอนมีกำลังแข็งแรง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ลำบากตอนหนุ่มดีกว่ากลุ้มตอนแก่”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ยามหนุ่มสาวให้ขยันหา ยาชราค่อยนอนตะแคงดู”
ลำดับที่ 388. “ยามเมื่อน้องฮัก น้ำส้มว่าหวาน ใจ๋บ่เจยบาน น้ำต๋าลว่าส้ม”
(-ยาม-เมื่อ-น้อง-ฮัก///น้ำ-ส้ม-ว่า-หวาน///ใจ๋-บ่อ-เจย-บาน///น้ำ-ต๋าน-ว่า-ส้ม-)
หมายถึง.....ยามแรกรักทุกอย่างดูสดใส พอนานวันไปก็จืดจาง มีแต่ความน่าเบื่อหน่าย
กำบ่าเก่าจึงว่า “ยามเมื่อน้องฮักน้ำส้มว่าหวาน ใจ๋บ่เจยบานน้ำต๋าลว่าส้ม”
การนำไปใช้ ถนอมความรักที่มีต่อกันไว้
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ยามักกันรสเปรี้ยวบอกหวาน ใจ พอเบื่อน้ำตาลยังว่าเปรี้ยว”
ลำดับที่ 389. “ยินกำเข้าหู อย่าถูออกปาก จักยากใจ๋เมื่อทีลูน”
อ่าน (-ยิน-กำ-เข้า-หู///หย่า-ถู-ออกปาก///จัก-ยาก-ใจ๋-เมื่อ-ที-ลูน-)
หมายถึง.....ได้ยินคำเล่าลือมา อย่ารีบนำไปกระจายข่าว ควรพิจารณาว่าจริงหรือเท็จ
กำบ่าเก่าจึงว่า “ยินกำเข้าหู อย่าถูออกปาก จักยากใจ๋ เมื่อทีลูน”
การนำไปใช้ ไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องใดอย่านำไปเล่าต่อ เรื่องที่เล่าลือมาอาจไม่เป็นความจริง จะโดนฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาท
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “คำลือเข้าหู อย่ารีบบอกไป ระวังผิดใจ เกิดเรื่องเดือดร้อน”
ลำดับที่ 390. “เยี๊ยะก๋ารเอ็นยาน” อ่าน (-เยี๊ยะ-ก๋าน-เอ็น-ยาน-)
หมายถึง....คนขี้เกียจสันหลังยาว ให้ทำงานก็ทำแบบไร้เรี่ยวแรง ไม่ตั้งใจทำอย่างจริงจัง
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยี๊ยะก๋ารเอ็นยาน”
การนำไปใช้ ควรทำงานอย่างขยันขันแข็ง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ขี้เกียจสันหลังยาว”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ทำงานเหมือนไร้เรี่ยวแรง(เพราะขึ้เกียจ)”
ลำดับที่ 391. “เยี๊ยะก๋ารคนเดียวเหมือนต๋าย เยี๊ยะก๋ารคนหลายเหมือนเล่น”
อ่าน (-เยี๊ยะ-ก๋าน-คน-เดียว-เหมือน-ต๋าย///เยี๊ยะ-ก๋าน-คน-หลาย-เหมือน-เล่น-)
หมายถึง.....ความสามัคคีในหมู่คณะจะทำให้งานประสบความสำเร็จลงได้อย่างง่ายดาย
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยี๊ยะก๋ารคนเดียวเหมือนต๋าย เยี๊ยะก๋ารคนหลายเหมือนเล่น”
การนำไปใช้ ให้มีความสามัคคี
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “สามัคคีคือพลัง///ความสามัคคีนำสุขมาให้”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ทำเองแทบตาย ช่วยกันมากมาย เหมือนทำเล่นๆ”
ลำดับที่ 392. “เยี๊ยะก๋ารอันใด หื้อเยี๊ยะต๋ามบ้านเมือง อย่าหื้อผิดฮีตบ้านกองเมือง ”
อ่าน (-เยี๊ยะ-ก๋าน-อัน-ใด///หื้อ-เยี๊ยะ-ต๋าม-บ้าน-เมือง///หย่า-หื้อ-ผิด-ฮีด-บ้าน-กอง-เมือง -)
หมายถึง.....ควรประพฤติตนถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ตามจารีตประเพณีและกฎหมายบ้านเมือง
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยี๊ยะก๋ารอันใด หื้อเยี๊ยะต๋ามบ้านเมือง อย่าหื้อผิดฮีตบ้านกองเมือง”
การนำไปใช้ อย่าทำผิดกฏหมาย ศีลธรรม จารีตประเพณีที่ดีงาม
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ทำการงานใดอย่าทำผิดกฏหมายบ้านเมือง”
ลำดับที่ 393. “เยี๊ยะปอหลาบปราบปออยู่”
อ่าน (-เยี๊ยะ-ปอ-หลาบ-ปราบ-ปอ-หยู่-)
หมายถึง.....สั่งสอนพอให้เข็ดหลาบ พอให้รู้สำนึก การลงโทษที่รุนแรงเกินไปอาจเกิดปัญหาตามมาได้
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยี๊ยะปอหลาบปราบปออยู่”
การนำไปใช้ อย่าใช้อารมณ์ตอนสั่งสอนลูกหลาน
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “เตือนพอเข็ดหลาบ ปรามปราบพอสมควร”
ลำดับที่ 394. “เยี๊ยะนาหล้า เป๋นขี้ข้าควาย มีเมียขวาย เป๋นขี้ข้าลูก”
อ่าน (-เยี๊ยะ-นา-หล้า///เป๋น-ขี้-ข้า-ควาย///มี-เมีย-ขวาย///เป๋น-ขี้-ข้า-ลูก-)
หมายถึง.....กระทำการไม่ถูกกาลเทศะ ไม่เป็นไปตามเวลาที่เหมาะสม ย่อมได้ผลประโยชน์ไม่เต็มที่
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยียะนาหล้า เป๋นขี้ข้าควาย มีเมียขวาย เป๋นขี้ข้าลูก”
การนำไปใช้ ในการทำงานต่างๆที่ต้องอาศัยช่วงเวลา ควรคำนึงถึงเวลาที่เหมาะสมด้วย
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “มีลูกไม่ทันใช้”(แก่ตายเสียก่อน)
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ทำนาเลยฤดู เป็นขี้ข้าควาย(ได้ข้าวน้อย) แต่งตอนแก่ ไม่ได้กินแรงลูก ”
ลำดับที่ 395. “เยี๊ยะก๋ารอ้างว่าบ่มีแฮง ต่าหีบน้ำแก๋งเสียงอย่างฟ้าฮ้อง”
อ่าน (-เยี๊ยะ-ก๋าน-อ้าง-ว่า-บ่อ-มี-แฮง///ต่า-หีบ-น้ำ-แก๋ง-เสียง-หย่าง-ฟ้า-ฮ้อง-)
หมายถึง.....คนขี้เกียจสันหลังยาว หาข้ออ้างเพื่อหลบงาน แต่ตอนทานอาหารกลับทานอย่างเต็มที่
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยี๊ยะก๋ารอ้างว่าบ่มีแฮง ต่าหีบน้ำแก๋ง เสียงอย่างฟ้าฮ้อง”
การนำไปใช้ อย่าหลบเลี่ยงงาน
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เห็นแก่ตัว เห็นแก่กิน”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ให้ช่วยทำงาน บอกไร้เรี่ยวแรง ตอนซดน้ำแกง ดังเสียงฟ้าร้อง”
ลำดับที่ 396. “เยี๊ยะก๋ารอันใด หื้อเยี้ยะแต้แต้ เยี้ยะเหลาะๆแหละๆ มันบ่ปอกิ๋นแล”
อ่าน (-เยี๊ยะ-ก๋าน-อัน-ใด/หื้อ-เยี้ยะ-แต้-แต้-เยี้ยะ-เหลาะ-เหลาะ-แหละ-แหละ//มัน-บ่อ-ปอ-กิ๋น-แล-)
หมายถึง.....ทำงานควรตั้งใจทำจริงจังทำให้ประสบผลสำเร็จ
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยี๊ยะก๋านอันใดหื้อเยี้ยะแต้แต้ เยี้ยะเหลาะๆแหละๆมันบ่ปอกิ๋นแล”
การนำไปใช้ อย่าทำเล่นๆต้องมีความตั้งใจในการทำงาน
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ทำอะไรทำจริง”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ทำอะไรทำจริง ทำเล่นๆไม่พอกิน”
ลำดับที่ 397. “เยี๊ยะก็หื้อเยี๊ยะแต้ดีหลี จักได้เป๋นเศรษฐีสักวันหนึ่ง”
อ่าน (-เยี๊ยะ-ก่อ-หื้อ-เยี๊ยะ-แต้-ดี-หลี-///จัก-ได้-เป๋น-เสด-ถี-สัก-วัน-หนึ่ง-)
หมายถึง..... ตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง ประหยัดอดออม จะประสบผลสำเร็จในชีวิต
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยี๊ยะก็หื้อเยี๊ยะแต้ดีหลี จักได้เป๋นเศรษฐีสักวันหนึ่ง”
การนำไปใช้ ต้องมีความตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “สู้แล้วรวย”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ทำงานทุ่มเทจริงจัง สักวันจักได้เป็นเศรษฐี”
ลำดับที่ 398. “เยี่ยวปล๋อมฝน สะเลียมปล๋อมใบ”อ่าน (-เยี่ยว-ป๋อม-ฝน///สะ-เลียม-ป๋อม-ใบ-)
หมายถึง.....เอาตัวรอดโดยอาศัยผู้อื่น
กำบ่าเก่าจึงว่า “เยี่ยวปล๋อมฝนสะเลียมปล๋อมใบ”
การนำไปใช้ อย่าอาศัยผู้อื่นโดยหวังเพียงการเอาตัวเองรอด สักวันจะพบความลำบาก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ยืมจมูกคนอื่นหายใจ///ขายผ้าเอาหน้ารอด”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “เยี่ยวปนสายฝน ไร้คนสงสัย”