จ.

ลำดับที่  143.  “จกก่องข้าว  จุหมาเฒ่าแกว่งหาง”

อ่าน  (-จก-ก่อง-ข้าว///จุ-หมา-เถ้า-แกว่ง-หาง-)

หมายถึง.....ทำอุบายเพื่อหลอกลวงผู้อื่นให้หลงกล 

กำบ่าเก่าจึงว่า      “จกก่องข้า   จุหมาเฒ่าแกว่งหาง”   

การนำไปใช้       ไม่ควรโกหก วางกลอุบาย  หลอกลวงผู้อื่น

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “แกล้งล้วงก่องข้าว   หลอกหมาเฒ่าแกว่งหาง”

ลำดับที่  144. “จวนไปวัด     เหมือนจั๊กหางเต่า  จวนไปกิ๋นเหล้า    คิงห้าฮาสิบ”

(-จวน-ไป-วัด///เหมือน-จั๊ก-หาง-เต่า///จวน-กิ๋น-เหล้า///คิง-ห้า-ฮา-สิบ-)

หมายถึง.....คนที่มีชีวิตหลงอยู่ในวังวนของอบายมุข

กำบ่าเก่าจึงว่า    “จวนไปวัด เหมือนจั๊กหางเต่า   จวนไปกิ๋นเหล้า   คิงห้าฮาสิบ”   

การนำไปใช้       อย่าประพฤติตนลุ่มหลงในอบายมุข

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “สุรายาเสพย์ติด  เป็นภัยต่อชีวิตเป็นพิษต่อสังคม”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง ชวนทำบุญ ยากเหมือนดึงหางเต่า ชวนตั้งวงเหล้า เอ็งออกห้าข้าออกสิบ 

ลำดับที่ 145. “จะกิ๋นก็ขี้จ๊ะ  จะละก็เสียดาย” อ่าน (-จะ-กิ๋น-ก่อ-ขี้-จ๊ะ///จะ-ละ-ก่อ-เสีย-ดาย)

หมายถึง....คนหวงสมบัติ  ตัดใจไม่ได้ จะกินก็ตะขิดตะขวงใจ จะทิ้งไปยังเสียดายหวงแหน ตัดไม่ขาด   กำบ่าเก่าจึงว่า     “จะกิ๋นก็ขี้จ๊ะ    จะละก็เสียดาย”     

การนำไปใช้        อย่าขี้เหนียวจนเกินไป

 เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพยไทยกลาง“เกลียดตัวกินไข่  เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง///หมาหวงก้าง”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “จะกินก็รังเกียจจริงๆ   จะทิ้งก็เสียดาย   ”

ลำดับที่  146. “จะว่าก๋ำพร้า   แม่ก็บ่ต๋าย    จะว่าสบาย    ป้อก็บ่อยู่บ้าน”

อ่าน  (-จะ-ว่า-ก๋ำ-พร้า///แม่-ก่อ-บ่อ-ต๋าย///จะ-ว่า-สะ-บาย///ป้อ-ก่อ-บ่อ-หยู่-บ้าน-)

หมายถึงเด็กที่พ่อแม่หย่าร้าง แยกไปคนละทาง  ต้องอยู่ในความดูแลของ ปู่  ย่า  ตา ยาย  ญาติพี่น้อง                กำบ่าเก่าจึงว่า    “จะว่าก๋ำพร้า แม่ก็บ่ต๋าย   จะว่าสบาย   ป้อก็บ่อยู่บ้าน”   

การนำไปใช้       ยอมรับสภาพที่เป็นอยู่   หันหน้าสู้ชีวิตต่อไป  อย่าท้อแท้  ยังมีญาติๆให้ความช่วยเหลืออยู่

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก ขาดแม่เหมือนแพแตก  ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “จะเป็นกำพร้า  แม่ก็ไม่ตาย  จะสุขสบาย   พ่อก็ทอดทิ้ง”

 

ลำดับที่  147. “จะไปถกเครือหาหน่วย”อ่าน (-จะ-ไป-ถก-เครือ-หา-หน่วย-)

หมายถึง…..อย่าซักไซ้ไล่เรียงหาต้นตอของเรื่อง หรือสืบถามลำดับวงศาคณาญาติผู้อื่นจนเขาอึดอัดใจ      กำบ่าเก่าจึงว่า    “จะไปถกเครือหาหน่วย” 

การนำไปใช้      ควรทักทาย  สอบถามตามสมควร

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “สืบสาวราวเรื่อง”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “อย่าดึงรั้งเถาไม้    ไปให้ถึงผล”

ลำดับที่  148.  “จะตี๋เหล็กก็ขะใจ๋ตี๋เมื่อยามมันฮ้อน    จะฟ้อนก็หื้อฟ้อนเมื่อยามเมา”

อ่าน  (-จะ-ตี๋-เหล็ก-ก่อ-ขะ-ใจ๋-ตี๋-เมื่อ-ยาม-มัน-ฮ้อน///จะ-ฟ้อน-ก่อ-หื้อ-ฟ้อน-เมื่อ-ยาม-เมา-)

หมายถึง....ทำตัวเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม  

กำบ่าเก่าจึงว่า   “จะตี๋เหล็กก็ขะใจ๋ตี๋เมื่อยามมันฮ้อน  จะฟ้อนก็หื้อฟ้อนเมื่อยามเมา”

การนำไปใช้      ทำตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ถูกกาลเทศะ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง     “ทันการณ์//ผสมโรง”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “ตีเหล็กตอนร้อน  ฟ้อนรำตอนเมา  ”

ลำดับที่  149.  “จะไปเปิดเสื้อหื้อเปิ้นหันหลัง     จะไปลอกหนังหื้อเปิ้นหันจิ๊น”

(-จะ-ไป-เปิด-เสื้อ-หื้อ-เปิ้น-หัน-หลัง /// จะ-ไป-ลอก-หนัง-หื้อ-เปิ้น-หัน-จิ๊น-)

หมายถึง.....เรื่องส่วนตัว ความขัดแย้งในครอบครัวญาติพี่น้อง ไม่ควรนำไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง

กำบ่าเก่าจึงว่า     “จะไปเปิดเสื้อ     หื้อเปิ้นหันหลัง   จะไปลอกหนัง  หื้อเปิ้นหันจิ๊น” 

การนำไปใช้       อย่าให้มีเรื่องขัดแย้งในครอบครัว  ถ้ามีเรื่องไม่เข้าใจกันก็หาทางไกล่เกลี่ยรอมชอม ให้ยุติ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ความในอย่าออก  ความนอกอย่าเข้า”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “อย่าเปิดเสื้อให้เขาเห็นหลัง  อย่าลอกหนังให้เขาเห็นเนื้อ”

ลำดับที่  150.  “จะไปฟังกล๋องหน้าเดียว”  อ่าน  (-จะ-ไป-ฟัง-ก๋อง-หน้า-เดียว-)

หมายถึง…..อย่าฟังความข้างเดียว 

กำบ่าเก่าจึงว่า     “จะไปฟังกล๋องหน้าเดียว” 

การนำไปใช้        พิจารณารับฟังเรื่องราว  ฟังเหตุผลของทุกฝ่ายอย่างครบถ้วน  ตัดสินด้วยความยุติธรรม

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ฟังความข้างเดียว”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “อย่าฟังเสียงกลองเพียงข้างเดียว”

 

ลำดับที่  151.  “จะไปเอาคนต๋าบอดมานำตาง    จะไปเอาคนต๋าฟางมาแบกไม้แคร่”

อ่าน  (-จะ-ไป-เอา-คน-ต๋า-บอด-มา-นำ-ตาง///จะ-ไป-เอา-คน-ต๋า-ฟาง-มา-แบก-ไม้-แค่-)

หมายถึง.....ไม่ควรเลือกผู้ไม่มีความรู้  หรือผู้รู้ไม่จริง ผู้ที่ไม่มีความสามารถมาเป็นผู้นำ

กำบ่าเก่าจึงว่า        “จะไปเอาคนต๋าบอดมานำตาง  จะไปเอาคนต๋าฟางมาแบกไม้แคร่” 

การนำไปใช้          พิจารณาเลือกคนจากความรู้ความสามารถที่เคยปรากฎต่อสังคม

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ดูคนดีดูที่การกระทำ   ดูผู้นำดูที่การเสียสละ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “อย่าเอาคนตาบอดนำทาง นำเอาคนตาฟางมาแบกคานหาม”

ลำดับที่  152.  “จะไปหวังน้ำห้วยหน้า   น้ำฟ้าบ่ไหลลงฮอม”

อ่าน  (-จะ-ไป-หวัง-น้ำ-ห้วย-หน้า///น้ำ-ฟ้า-บ่อ-ไหล-ลง-ฮอม-)

หมายถึง.....อย่าฝากความหวังไว้กับสิ่งที่ไม่แน่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ หรือหวังลมๆแล้งๆ 

กำบ่าเก่าจึงว่า    “จะไปหวังน้ำห้วยหน้า น้ำฟ้าบ่ไหลลงฮอม”    

การนำไปใช้      อย่าฝากความหวังไว้ ในสิ่งที่ไม่แน่นอน  หรือไม่รู้ว่าจะเป็นความจริงตามที่คาดคิดหรือไม่

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง “ไม่เห็นน้ำตัดกระบอก  ไม่เห็นกระรอกก่งหน้าไม้ ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “อย่าหวังน้ำบ่อหน้า  น้ำฝนจากฟ้าไม่มารวม” 

ลำดับที่  153. “จะหาบก็อาย    จะสะปายก็หนัก”

อ่าน(-จะ-หาบ-ก่อ-อาย///จะ-สะ-ปาย-ก่อ-หนัก-)

หมายถึง......คนขี้เกียจ   หนักไม่เอาเบาไม่สู้  คนหยิบโหย่ง ทำอะไรไม่จริงจัง หาข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงงาน       กำบ่าเก่าจึงว่า   “จะหาบก็อาย  จะสะปายก็หนัก” 

การนำไปใช้   มีความขยัน มีความภูมิใจในอาชีพที่สุจริต

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “จะหาบบอกอาย  จะสะพายว่าหนัก  ”

ลำดับที่  154.  “จะไปตี๋กล๋องแข่งฟ้า    จะไปขี่ม้าแข่งตะวัน”

อ่าน  (-จะ-ไป-ตี๋-ก๋อง-แข่ง-ฟ้า///จะ-ไป-ขี่-ม้า-แข่ง-ตะ-วัน-)

หมายถึง.....อย่าทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์  หรือพยายามแข่งบุญแข่งวาสนากับคนมั่งมี       

กำบ่าเก่าจึงว่า        “จะไปตี๋กล๋องแข่งฟ้า  จะไปขี่ม้าแข่งตะวัน”  

การนำไปใช้           รู้เจียมตน  กระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง  ครอบครัว  สังคมรอบข้าง

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “แข่งเรือแข่งแพแข่งได้  แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “อย่าตีกลองแข่งเสียงฟ้า(ร้อง)อย่าขี่ม้าไล่ดวงอาทิตย์(กำลังจะลับฟ้า)”

 

ลำดับที่  155.  “จะจู๋งต้องไปก่อน    จะส่อนต้องตวยหลัง”

อ่าน   (-จะ-จู๋ง-ต้อง-ไป-ก่อน///จะ-ส่อน-ต้อง-ตวย-หลัง-)

หมายถึง.....ความสามารถของคนย่อมแตกต่างกัน บางคนชอบนำ  บางคนชอบตาม

กำบ่าเก่าจึงว่า    “จะจู๋งต้องไปก่อน  จะส่อนต้องตวยหลัง”  

การนำไปใช้       ควรรู้ตนเองอย่าฝืน  หรือปกปิดไว้ผลที่ได้จะไม่ดี สามีควรเป็นผู้นำภรรยาควรตาม

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    จูงต้องไปก่อน  ต้อนต้องอยู่หลัง

(ส่อน  คือการวางเชือกไว้บนตะโพกวัวควาย  ค่อยฝึกให้มันรู้สัญญาณเชือกที่พาดอยู่ ว่าจะไปซ้ายขวา)

ลำดับที่  156. “จะไปอยู่คนเดียว   จะไปเตียวเป๋นหมู่    จะไปอู้กั๋นดัง    จะไปฟังกำส่อ”

อ่าน(-จะ-ไป-หยู่-คน-เดียว///จะ-ไป-เตียว-เป๋น-หมู่///จะ-ไป-อู้-กั๋น-ดัง///จะ-ไป-ฟัง-กำ-ส่อ-)

หมายถึง.....ควรมีวินัยในตนเองและดูแลหมู่คณะให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ดีงามของสังคม 

กำบ่าเก่าจึงว่า      “จะไปอยู่คนเดียว จะไปเตียวเป๋นหมู่  จะไปอู้กั๋นดัง  จะไปฟังกำส่อ”  

การนำไปใช้     ระวังตนไม่อยู่ตามลำพัง (อาจคิดมากเกิดความฟุ้งซ่าน หรือเวลามีภัยไม่มีคนช่วยเหลือ) อย่าเดินเป็นกลุ่ม (เกะกะทาง)  อย่าพูดคุยกันเสียงดัง (  เสียงรบกวนผู้อื่น )  และอย่าสนใจในคำยุแยง

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “มีสมบัติผู้ดี”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   อย่าอยู่ผู้เดียว อย่าเที่ยวเป็นกลุ่ม อย่ามั่วสุมเสียงดัง อย่าฟังคำยุ

ลำดับที่  157.  “จะหนีก็หื้อเปิ้นเสียดาย   จะต๋ายก็หื้อเปิ้นได้เล่า”

อ่าน  (-จะ-หนี-ก่อ-หื้อ-เปิ้น-เสีย-ดาย///จะ-ต๋าย-ก่อ-หื้อ-เปิ้น-ได้-เล่า-)

หมายถึง.....ผู้ทำคุณความดีต่อสังคมอย่างสม่ำเสมอ ย่อมเป็นที่รักและคิดถึงของคนทั่วไป 

กำบ่าเก่าจึงว่า    “จะหนีก็หื้อเปิ้นเสียดาย   จะต๋ายก็หื้อเปิ้นได้เล่า”  

การนำไปใช้        หมั่นทำความดี เมื่อเราจากไป  ผู้คนจะนึกถึงคุณงามความดีที่เราได้กระทำไว้ตลอดไป

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “อยู่ให้เขารัก  จากให้เขาอาลัย” 

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “จะย้ายให้เขาเสียดาย จะตายจากให้เขาเล่าลือในความดี

ลำดับที่  158. “จะหล่อแต๊ก็หน   จะจนแต๊ก็หย้าน” 

อ่าน  (-จะ-หล่อ-แต๊-ก่อ-หน///จะ-จน-แต๊-ก่อ-หย้าน-)

หมายถึง…..กล้าๆกลัวๆ กลัวๆกล้าๆ  ไม่มั่นใจในตนเอง

กำบ่าเก่าจึงว่า     “จะหล่อแต๊ก็หน จะจนแต๊ก็หย้าน” 

การนำไปใช้        ให้มีความมั่นใจในตนเอง  กล้าแสดงออก  กล้ากระทำในสิ่งที่ดีงาม

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “กล้าๆกลัวๆกลัวๆกล้าๆ///ใจเสาะ///ใจปลาซิว

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “จะกระโจนใส่   ก็กลัวต้องถอยร่น  จะวิ่งเข้าชน  ก็ยังหวาดเกรง

ลำดับที่  159. “จ๊ะต๋าบ่ากอกแห้ง”  อ่าน  (-จ๊ะ-ต๋า-บ่า-กอก-แห้ง-)

หมายถึง.....คนไร้วาสนา ชะตาตก  อาภัพอับโชค ทำอะไรไม่เจริญ    กำบ่าเก่าจึงว่า    “จ๊ะต๋าบ่ากอกแห้ง”   

การนำไปใช้         ใช้ความมานะอดทนต่อสู้ชีวิต สักวันจะพบความสำเร็จ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    คนอับโชค///ดวงตก///อาภัพ

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   ดวงชะตามะกอกแห้ง

ลำดับที่  160. “จับใจ๋งูบ่จูใจ๋เขียด    จับใจ๋เปี๊ยดบ่เปิงใจ๋ไม้กาน    จับใจ๋หลานบ่ถูกใจ๋คนเฒ่า”

อ่าน(-จับ-ใจ๋-งู-บ่อ-จู-ใจ๋-เขียด//จับ-ใจ๋-เปี๊ยด-บ่อ-เปิง-ใจ๋-ไม้-กาน//จับ-ใจ๋-หลาน-บ่อ-ถูก-ใจ๋-คน-เถ้า-)

ลำดับที่  161.  “จับใจ๋แฮ้ง   บ่แจ้งใจ๋ก๋า    จับใจ๋ครูบา    บ่เปิงใจ๋พระหน้อย”

อ่าน  (-จับ-ใจ๋-แฮ้ง///บ่อ-แจ้ง-ใจ๋-ก๋า///จับ–ใจ๋-ครู-บา///บ่อ-เปิง-ใจ๋-พระ-หน้อย-)

หมายถึง.....เรื่องความชอบของเราย่อมแตกต่างกัน   

กำบ่าเก่าจึงว่า    “จับใจ๋งู  บ่จูใจ๋เขียด  จับใจ๋เปี๊ยด  บ่เปิงใจ๋ไม้กาน  จับใจ๋หลาน  บ่ถูกใจ๋คนเฒ่า”

“จับบใจ๋แฮ้ง   บ่แจ้งใจ๋ก๋า  จับใจ๋ครูบา    บ่เปิงใจ๋พระหน้อย”

การนำไปใช้       ความชอบของคนย่อมแตกต่างกัน  อย่าฝืนใจให้ทำ  แม้ทำก็ไม่ได้ผลดีเพราะโดนบังคับ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ ลางเนื้อชอบลางยา ” 

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง ถูกใจงูเขียดไม่ชอบ  พอใจกระบุงไม่ชอบไม้คาน ถูกใจลูกหลานคนแก่ไม่ชอบ”  “ถูกใจนกแร้ง  กาไม่สนใจ  พระสงฆ์รับไว้  สามเณรปฏิเสธ

ลำดับที่  162. “จา-ติว่าน้ำบ่หลอนขาดปล๋า    จา-ติว่านาบ่หลอนขาดข้าว”

อ่าน  (-จ๋า-ติ-ว่า-น้ำ-บ่อ-หลอน-ขาด-ป๋า///จ๋า-ติ-ว่า-นา-บ่อ-หลอน-ขาด-ข้าว-)

หมายถึง.....คนเราถ้ามีความอดทนตั้งใจจริง  ขยันทำมาหากินคงไม่ขัดสนยากไร้       

กำบ่าเก่าจึงว่า   “จา-ติว่าน้ำบ่หลอนขาดปล๋า     จา-ติว่านาบ่หลอนขาดข้าว” 

 การนำไปใช้      มีความตั้งใจอย่างจริงจังในการทำงาน  จะหาช่องทางเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้

เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพยไทยกลาง   ไม่มีความยากจนในหมู่ชนที่ขยัน

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ในน้ำมีปลา    ในนามีข้าว”

ลำดับที่  163. “จ๊างบ่ต๋ายฟั่งถอดงา    หมาบ่ต๋ายฟั่งถอดเขี้ยว”

อ่าน  (-จ๊าง-บ่อ-ต๋าย-ฟั่ง-ถอด-งา///หมา-บ่อ-ต๋าย-ฟั่ง-ถอด-เขี้ยว-)

หมายถึง.....บิดามารดายังมีชีวิต ลูกๆกลับแย่งทรัพย์สมบัติ   

กำบ่าเก่าจึงว่า     “จ๊างบ่ต๋ายฟั่งถอดงา   หมาบ่ต๋ายฟั่งถอดเขี้ยว”   

การนำไปใช้       ถ้าบิดามารดายังมีชีวิต   อย่าได้คิดแบ่งสมบัติ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “อกตัญญู”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ช้างไม่ล้มอย่ารีบถอดงา  หมาไม่ตายอย่ารีบถอดเขี้ยว”

ลำดับที่  164.  “จิ้นบ่เน่าหนอนบ่จี    กำบ่มีเขาบ่ว่า”

 อ่าน    (-จิ้น-บ่อ-เน่า-หนอน-บ่อ-จี///กำ-บ่อ-มี-เขา-บ่อ-ว่า-)

หมายถึง.....เรื่องไม่มีความจริงเขาคงไม่นำมาเล่าลือ 

กำบ่าเก่าจึงว่า    “จิ้นบ่เน่าหนอนบ่จี  กำบ่มีเขาบ่ว่า”        

การนำไปใช้      ให้พิจารณาเรื่องที่รับฟังมาอาจมีมูลความจริงอยู่บ้าง

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    “ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “เนื้อไม่เน่าหนอนไม่ไช   เรื่องไม่จริงคงไม่มีคนเล่า”

ลำดับที่  165. “จ๊างเฒ่าย่ำงวง    ปล๋าตั๋วหลวงต๋ายน้ำตื้น”

อ่าน  (-จ๊าง-เถ้า-ย่ำ-งวง///ป๋า-ตั๋ว-หลวง-ต๋าย-น้ำ-ตื้น-)

หมายถึง.....คนฉลาดมีความรู้ มาพลาดท่าเสียทีด้วยเรื่องง่ายๆ

กำบ่าเก่าจึงว่า      “จ๊างเฒ่าย่ำงวง   ปล๋าหลวงต๋ายน้ำตื้น” 

การนำไปใช้        มีความละเอียดรอบคอบ  อย่าให้พลาดในเรื่องง่ายๆ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    “ปลาตายน้ำตื้น”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “ช้างเฒ่าเหยียบงวง   ปลาตัวโตตายน้ำตื้น”

ลำดับที่  166.  “จี่พริกตัองมีครู  จี่ปู๋ต้องมีลาย”

อ่าน  (-จี่-พริก-ต้อง-มี-ครู///จี่-ปู๋-ต้อง-มี-ลาย-)

หมายถึง….อย่าดูถูกผู้อื่น บางสิ่งบางอย่างต้องมีเคล็ดลับหรือเทคนิคเฉพาะที่เรียนรู้มาจากครูบาอาจารย์           กำบ่าเก่าจึงว่า     “จี่พริกต้องมีครู จี่ปู๋ต้องมีลาย”

การนำไปใช้       อย่าดูถูกวิธีการ  ความสามารถของผู้อื่น 

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง     “ศิษย์มีครู”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง     “ปิ้งพริกต้องมีครู(มีเคล็ดลับ)    ปิ้งปูต้องมีเทคนิค”

ลำดับที่  167.   “จิกดอยอยู่ปื้นตี๋นคนขึ้น จะไปลื่นคนมีเพียร  ”

อ่าน   (-จิก-ดอย-หยู่-ปื้น-ตี๋น-คน-ขึ้น///จะ-ไป-ลื่น-คน-มี-เปียน-)

หมายถึง....อย่าได้ดูถูกดูหมิ่นความเพียรพยายามของผู้อื่น   

กำบ่าเก่าจึงว่า      “จิกดอยอยู่ปื้นตี๋นคนขึ้น จะไปลื่นคนมีเพียร  ”

การนำไปใช้         อย่าดูถูกความตั้งใจ  ความพากเพียรของคน

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง     “ความพยายามอยู่ที่ไหน   ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ยอดเขาอยู่ใต้เท้าคนขึ้น  อย่าหมิ่นความพยายามของคน”

 

ลำดับที่  168.  “เจ็บต๊องต๋างแม่มาน”  อ่าน  (-เจ็บ-ต๊อง-ต๋าง-แม่-มาน-)

หมายถึง.....เป็นเดือดเป็นแค้นหรือทุกข์ใจแทนคนอื่นจนเกินไป

กำบ่าเก่าจึงว่า    “เจ็บต๊องต๋างแม่มาน”    

การนำไปใช้      อย่าเป็นทุกข์แทนผู้อื่นจนออกหน้าออกตาจะโดนหมั่นไส้  ควรเห็นใจตามสมควร

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ไม่มีความยากจนในหมู่ชนที่ขยัน”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “เจ็บท้องแทนคนตั้งครรภ์”

ลำดับที่  169.  “เจ้ามีเวียกมีก๋าร   หื้อแล่นจ้วย”

อ่าน ( -เจ้า-มี-เวียก-มี-ก๋าน///หื้อ-แล่น-จ้วย-)

หมายถึง.....การไม่นิ่งดูดายเมื่อเจ้านาย  หรือสังคมชุมชนมีงานเพื่อส่วนรวม ควรรีบไปให้ความช่วยเหลือ     กำบ่าเก่าจึงว่า     “เจ้ามีเวียกมีก๋าร  หื้อแล่นจ้วย”

 การนำไปใช้       เสนอตัวช่วยเหลือผู้คนในสังคมรอบข้าง ตามความสามารถ  อย่าให้เขาต้องเรียกหา   

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “เจ้านายมีงาน  รีบรีบเร่งเข้าไปช่วย”

ลำดับที่  170. “จิ๊นฮองหน้าเขียง”  อ่าน  (- จิ๊น-ฮอง-หน้า-เขียง-)

หมายถึง....การออกหน้ารับผิดชอบแทนผู้อื่น 

กำบ่าเก่าจึงว่า     “จิ๊นฮองหน้าเขียง”  

การนำไปใช้        อย่าเสนอตัวรับหน้าแทนผู้อื่นไปทุกเรื่อง  อาจพบความเดือดร้อนวุ่นวาย

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    “หนังหน้าไฟ

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “เนื้อรองหน้าเขียง 

ลำดับที่  171.  “เจ้าสอนอย่าเกี๊ยด”  อ่าน  (- เจ้า-สอน-หย่า-เกี๊ยด-)

หมายถึง..... ผู้มีพระคุณหรือนายว่ากล่าวตักเตือน   อย่าโกรธหรือขัดเคืองใจควรน้อมรับคำสั่งสอน       

กำบ่าเก่าจึงว่า    “เจ้าสอนอย่าเกี๊ยด”   

การนำไปใช้        ให้ความเคารพผู้มีพระคุณเมื่อท่านอบรมสั่งสอน

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    “”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “เจ้านายท่านสอน  อย่าทำงอนโมโห”

ลำดับที่  172. “จุหมาหน้อยขึ้นดอย”  อ่าน (-จุ-หมา-หน้อย-ขึ้น-ดอย-)

หมายถึง.....ถูกหลอกลวงให้มีความหวังแต่ไม่ได้รับรางวัลตามสัญญ

กำบ่าเก่าจึงว่า   “จุหมาหน้อยขึ้นดอย”   การนำไปใช้      พิจารณาใคร่ครวญว่าเรากำลังโดนเขาหลอกอยู่หรือเปล่า เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “โดนหลอกใช้”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “หลอกสุนัขน้อยขึ้นเขา”

ลำดับที่ 173. “เจ้าน้องก็จั๊กไปตางซ้าย   เจ้าอ้ายก็จั๊กไปตางขวา  เจ้าน้องก็ว่าจะจี่   เจ้าปี้ก็ว่าจะเผา”

อ่าน (-เจ้า-น้อง-จั๊ก-ไป-ตาง-ซ้าย/เจ้า-อ้าย-จั๊ก-ไป-ตาง-ขวา/เจ้า-น้อง-ก่อ-ว่า-จะ-จี่/เจ้า-ปี้-ก่อ-ว่า-จะ-เผา-)

หมายถึงมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน  มีความขัดแย้งกันเสมอ 

 กำบ่าเก่าจึงว่า     “เจ้าน้องก็จั๊กไปตางซ้าย   เจ้าอ้ายก็จั๊กไปตางขวา  เจ้าน้องก็ว่าจะจี่   เจ้าปี้ก็ว่าจะเผา” 

การนำไปใช้        ควรใช้เหตุผลในการยุติข้อขัดแย้ง

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง  “มากหมอมากความ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “น้องจะขยับซ้าย   พี่ย้ายไปขวา  น้องบอกปิ้งดี   พี่บอกต้องเผา”

ลำดับที่  174.  “เจ๊าได้หลาย   ขวายได้หน้อย”   อ่าน  (-เจ๊า-ได้-หลาย///ขวาย-ได้-หน้อย-)

หมายถึง....เริ่มงานก่อนย่อมได้งานมากกว่า    กำบ่าเก่าจึงว่า     “เจ๊าได้หลาย   ขวายได้หน้อย”

การนำไปใช้       อย่ารอเวลาในการทำมาหากิน  รีบลงมือทำทันที

 เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “การเริ่มต้นที่ดีเท่ากับสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “เริ่มก่อนได้มากมาย   เริ่มสายได้นิดหน่อย”

ลำดับที่  175.  “เจ๊าก็ว่ายังงาย    ขวายก็ว่าแดดฮ้อน”

อ่าน  (- เจ๊า-ก่อ-ว่า-ยัง-งาย///ขวาย-ก่อ-ว่า-แดด-ฮ้อน-)

หมายถึง.....คนขี้เกียจ  หาข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงงาน 

กำบ่าเก่าจึงว่า     “เจ๊าก็ว่ายังงาย  ขวายก็ว่าแดดฮ้อน”           

การนำไปใช้       อย่าเป็นคนเห็นแก่ตัว อ้างโน่นอ้างนี่เพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    “ผัดวันประกันพรุ่ง”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “ให้ทำงานบอกยังรุ่งสาง (เวลาจวนสว่าง)  พอสว่างอ้างแดดร้อน”

ลำดับที่  176. “โจรปล้นยังเหลือเฮือนไว้      ไฟไหม้ยังเหลือแผ่นดิน 

แต่ก๋ารพนันมันกิน    แม้แต่แผ่นดินก็บ่ค้างอยู่” 

อ่าน  (-โจ๋น-ป้น-ยัง-เหลือ-เฮือน-ไว้///ไฟ-ไหม้-ยัง-เหลือ-แผ่น-ดิน///

แต่-ก๋าน-พะ-นัน-มัน-กิ๋น///แม้-แต่-แผ่น-ดิน-ก่อ-บ่อ-ค้าง-อยู่-)

หมายถึง.....การพนันทำให้ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องสูญสิ้นไป  ไม่มีสิ่งใดเหลือเลย   

กำบ่าเก่าจึงว่า  “โจรปล้นยังเหลือเฮือนไว้  ไฟไหม้ยังเหลือแผ่นดิน  แต่การพนันมันกิน 

แม้แต่แผ่นดินก็บ่ค้างอยู่”   

การนำไปใช้   อย่ายุ่งเกี่ยวอบายมุข การพนันทุกรูปแบบ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง     “หมดเนื้อหมดตัว”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “โจรปล้นเหลือบ้าน ไฟผลาญเหลือที่ดิน  การพนันผลาญสิ้นไม่มีเหลือ”

 

ลำดับที่  177.  “เจือสาดหลบขี้หมา”  อ่าน  (-เจื๋อ-สาด-หลบ-ขี้-หมา-)

หมายถึง....ปกปิดความผิดของตนเองไว้  

กำบ่าเก่าจึงว่า   “เจื๋อสาดหลบขี้หมา”

การนำไปใช้      ควรกระทำแต่ความดี  ถ้าทำชั่วต้องทุกข์ใจตลอดเวลาเพราะคอยปกปิดความผิดของตนเอง  

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เต่าใหญ่ไข่กลบ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “ปูเสื่อทับขี้หมา”

ลำดับที่  178. “ใจ๋ใสเป๋นบุญ   ใจ๋ขุ่นเป๋นบาป” 

อ่าน  (-ใจ๋-ใส-เป๋น-บุน///ใจ๋-ขุ่น-เป๋น-บาบ-)

หมายถึง.....จิตใจดีงามทำให้มีความสุข  แต่ใจอกุศล  มีความอิจฉาริษยาทำให้เกิดทุกข์  

กำบ่าเก่าจึงว่า     “ใจ๋ใสเป๋นบุญ  ใจ๋ขุ่นเป๋นบาป”  

การนำไปใช้        ควรมีความรู้สึกนึกคิดที่ดีงาม  มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    “กระทำความดี  ละเว้นความชั่ว  ทำจิตใจให้บริสุทธิ์”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “ใจใสเป็นบุญ  ใจขุ่นเป็นบาป”

ลำดับที่  179. “ใจ๋เจ้าใจ๋ไพร่   มันก็ห้อยอยู่ตี้เดียวกั๋น”

อ่าน  (-ใจ๋-เจ้า-ใจ๋-ไพร่///มัน-ก่อ-ห้อย-อยู่-ตี้ –เดียว-กั๋น-)

หมายถึง.....ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน ทุกคนย่อมอยากหลุดพ้นจากความทุกข์และอยากพบแต่ความสุข  

กำบ่าเก่าจึงว่า     “ใจ๋เจ้าใจ๋ไพร่ มันก็ห้อยอยู่ตี้เดียวกั๋น” 

การนำไปใช้       รู้จักเห็นใจผู้อื่น

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ///ใจเขาใจเรา”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “ใจนายหรือไพร่  ย่อมห้อยอยู่ใน   ตำแหน่งเดียวกัน”

ลำดับที่  180. “ใจ๋บ่แข็ง  บ่ได้ขี่จ๊างงา  ใจ๋บ่กล้า  บ่ได้เป๋นป้อเลี้ยง”

อ่าน  (-ใจ๋-บ่อ-แข็ง///บ่อ-ได้-ขี่-จ๊าง-งา///ใจ๋-บ่อ-ก้า///บ่อ-ได้-เป๋น-ป้อ-เลี้ยง-)

หมายถึง.....คนที่มีจิตใจเข้มแข็ง กล้าตัดสินใจ อดทนต่อสู้อุปสรรค ย่อมพบความเจริญก้าวหน้าในชีวิต          กำบ่าเก่าจึงว่า    “ใจ๋บ่แข็ง  บ่ได้ขี่จ๊างงา  ใจ๋บ่กล้า   บ่ได้เป๋นป้อเลี้ยง” 

การนำไปใช้       บางครั้ง  บางคราว  บางเรื่องบางราว  ต้องกล้าตัดสินใจ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “โชคลาภบำเรอคนใจเด็ด”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ใจไม่แข็งแกร่ง  อดขี่ช้างงา   ใจไม่ค่อยกล้า   คงไม่ได้เป็นเศรษฐี”

 

ลำดับที่ 181. “เจื๊อบ่าแต๋งลาย    มันตึงบ่ขึ้นซั้ง” 

อ่าน (-เจื้อ-บ่า-แตง-ลาย///มัน-ตึง-บ่อ-ขึ้น-ซั้ง-)

หมายถึง.....คนมีนิสัยขี้เกียจแม้ได้รับการสนับสนุนเพียงใด ก็ไม่พัฒนาตนเองให้เจริญได้ กลับทำตัวตกต่ำ กำบ่าเก่าจึงว่า   “เจื๊อบ่าแต๋งลาย มันตึงบ่ขึ้นซั้ง” 

การนำไปใช้      รู้คุณบิดามารดาญาติพี่น้องที่คอยสนับสนุน  ด้วยการทุ่มเทให้กับการเรียนมากที่สุด

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง     “ขุนไม่ขึ้น///ขุนไม่เชื่อง///ไม่เอาถ่าน” 

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “แตงไทย   จะอย่างไรก็ไม่ขึ้นค้าง (เถาจะเลี้อยไปตามพื้นดิน)”