ก.........ลำดับที่  1  “ กกหางป่อยวัด  ”    อ่าน  (-กก-หาง-ป่อย-วัด-)

หมายถึง.....การตัดขาดไม่เกี่ยวข้อง  ไม่ดูแลเอาใจใส่  ไม่ให้ความช่วยเหลือหรือเลี้ยงดูอีกต่อไป       อาทิกรณีที่ลูกหลานหรือเครือญาติ ไปก่อเรื่องเสื่อมเสียไว้  ให้ความช่วยเหลือทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์  กำลังสติปัญญา หลายครั้งหลายครา สั่งสอนว่ากล่าวตักเตือนก็ไม่เชื่อฟัง  ตามความเชื่อที่ว่า สัตว์ที่เลี้ยงไว้ในบ้านถ้าออกลูกมาพิการ  ( เช่น  วัวห้าขา  หมูตาเดียว ฯลฯ )   ถือเป็นสิ่งอัปมงคล   จะนำไปปล่อยที่วัด        ควรประพฤติตนเป็นคนดี   มีกริยามารยาทที่เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย    “ตัดหางปล่อยวัด”  

ลำดับที่  2.   “ก้นตั่งฟาก  ปากตั่งข้าว”  อ่าน (-ก้น-ตั่ง-ฟาก///ปาก-ตั่ง-ข้าว-)

หมายถึง......รีบร้อนเห็นแก่กินจนเกินไป ไม่มีมารยาทในการทานอาหาร หรือเวลาทำงานไม่ช่วยทำ      ตอนทานรีบมา  พอก้นแตะพื้นฟากปั๊บ  นำอาหารเข้าปากทันที

การนำไปใช้       อย่าเห็นแก่กิน   ควรช่วยกันทำงาน อย่าหลบเลี่ยง

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)   “ก้นแตะพื้นฟาก ปั้นข้าวทิ่มปากทันที” ฟากคือลำไม้ไผ่สับตามยาวแผ่กางออกเป็นแผ่น  ใช้ทำพื้นหรือฝาของกระท่อมไม้ไผ่มุงหญ้าคา ปัจจุบันสร้างไว้ตามไร่นา เรียกว่า“ห้างนา”ใช้เป็นที่หลบฝน  พักผ่อน ทานอาหาร หรือใช้อาศัยค้างแรมดูแลพืชไร่ตามฤดูกาล”     

ลำดับที่  3.   “ก้นหม้อบ่ฮ้อน  บ่เป๋นแต่ไห  มันเป๋นแต่ไฟ  บ่ไจ่ก้นหม้อ”

หมายถึง.....ก่อนสรุปลงความเห็นตัดสินใจในเรื่องใดๆควรพิจารณาหาสาเหตุของปัญหาว่าเกิดจากอะไร 

การนำไปใช้   ก่อนที่จะกล่าวโทษสิ่งใดควรพิจารณาปัญหาอย่างรอบคอบ  ว่าเกิดจากสาเหตุใด  อาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ก็ให้อภัยในความผิดพลาด  ร่วมกันแก้ไขให้ตรงจุด ดังเช่น  ก้นหม้อไม่ร้อน  เนื่องจากไฟไม่ลุกโชน  จะโทษก้นหม้อไม่ได้  “ปัญหาแก้ที่ต้นเหตุ”

ลำดับที่  4.  “กบใกล้ปากงู  หนูใกล้บอกไม้   จิ๊นเน่าใกล้ดังแมว”

หมายถึง.....สภาพที่เอื้อให้เกิดเหตุได้ง่ายดาย ทำให้เกิดความเสียหาย  เพราะมาอยู่ใกล้ชิดกัน

การนำไปใช้      เตรียมป้องกัน  ดีกว่ามาแก้ไขทีหลัง      ใช้เป็นข้อเตือนใจหญิง  อย่าให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับชายจนเกินไป หญิงอาจพลาดท่าเสียทีให้ชายได้

 ดุจ “น้ำตาลใกล้มด”

ลำดับที่  5. “ก้มหน้าหื้อผ่อดินเมือง   จักรุ่งเรืองไปวันตางหน้า”

หมายถึง.....คนเจียมเนื้อเจียมตัว ดำรงตนอยู่แบบพอเพียง พอประมาณ  ขยันทำกินบนผืนดินของตน ย่อมเจริญก้าวหน้ากว่าคนขี้เกียจ  (ชาวล้านนาสมัยก่อนจะทำมาหากินด้วยการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์  คนขยัน ประหยัด และรู้เก็บออมทรัพย์ที่หามาได้จะมีความก้าวหน้า  ปัจจุบันยังนำไปใช้ได้  โดยมีความขยันในงานประจำที่รับผิดชอบ หมั่นออมเงิน ย่อมสร้างฐานะได้)    

การนำไปใช้  รู้ประมาณตน   พอใจในชีวิตความเป็นอยู่   ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย  ต้องเป็นคน   “เจียมเนื้อเจียมตัว”

ลำดับที่  6. “กล๋องบ่ตี๋   เสียงดักจะกว๊าย   เอามือขึ้นป้าย   เสียงดังเนืองนัน”

หมายถึง.....มีความรู้  ความสามารถ  แต่ไม่นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมรอบข้างย่อมไร้ค่า         

 การนำไปใช้ควรใช้ความรู้ที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ด้วยการเสนอตัวเอง เพราะบางทีคนอื่นไม่ทราบ ประดุจ  “น้ำนิ่งไหลลึก///คมในฝัก”

ลำดับที่  7. “กล้วยก๊ำง่าม  ง่ามก๊ำกล้วย” 

หมายถึง......มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน 

การนำไปใช้       ให้ความช่วยเหลือกัน  ทั้งกำลังกาย  กำลังทรัพย์ กำลังสติปัญญา หรือให้กำลังใจ ประดุจ   “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า///เกิดมาพึ่งกัน”

ลำดับที่  8. “กว๋างฟานมันตึงบ่ต๋ายเหล่าใหม่    มันตึงมาต๋ายเหล่าเก่า”

หมายถึง.....สรรพสัตว์ทั้งหลายรวมทั้งคน ย่อมมีความผูกพันคิดถึงถิ่นเกิดของตนเอง   

การนำไปใช้      มีความรักหวงแหนถิ่นเกิด  ควรกลับมาช่วยเหลือให้ความร่วมมือกับชุมชน เท่าที่ทำได้  ดังคน  “กลับมาตายรัง”

ลำดับที่  9. “กล้วยบ่สุกก๋าบ่กิ๋น”

หมายถึง.....ยังนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม     

การนำไปใช้      ควรเอาใจใส่ดูแลรักษา อดทนรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่  รอ  “ช้าๆได้พร้าสองเล่มงาม///ช้าเป็นการนานเป็นคุณ”

ลำดับที่ 10. “กันใคร่มีเงินมีคำ  หื้อหมั่นกึ๊ดหมั่นสร้าง กันใคร่หื้อเปิ้นอวดอ้าง  หื้อหมั่นกิ๋นหมั่นตาน” 

หมายถึง....อยากร่ำรวยต้องขยัน  การทำบุญสุนทาน  เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น  ผู้คนย่อมสรรเสริญ

การนำไปใช้       ควรขยันทำมาหากิน  และทำบุญสุนทานอย่างสม่ำเสมอ   “ ไม่มีความยากจนในหมู่ชนที่ขยัน”

ลำดับที่  11. “ก้อยอยู่ต๋ามน้ำ  ทำไปต๋ามตั๋ว   น้ำเปียงใด   ดอกบัวเปียงอั้น”

หมายถึง.....ควรดำรงชีวิต หรือประกอบอาชีพ แบบค่อยเป็นค่อยไป ตามกำลังสติปัญญา ตามกำลังความสามารถของตน อยู่แบบพอเพียง รอให้มีความพร้อม จึงค่อยหาลู่ทางขยับขยาย    

การนำไปใช้        ยึดหลักความพอเพียงคือ  มีความพอประมาณ   ทำอย่างมีเหตุผล  มีภูมิคุ้มกัน   “ เจียมเนื้อเจียมตัว///แบบพอเพียง ”

ลำดับที่  12. “กันน้ำบ่หนา    ปู๋ปล๋าบ่ข้อน   กิ๋นแก๋งบอน    มันจ้างคันนอกลิ้น”

หมายถึง.....คนยากจน คนไม่มีทรัพย์สินเงินทองย่อมไม่มีใครสนใจคบหา 

การนำไปใช้        ถึงจะยากจนก็อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี   ไม่ไปรบกวนผู้อื่น  ขยันทำมาหากินสร้างฐานะตนเอง

 “จนแล้วต้องเจียม”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง) “น้ำไม่ไหลหลาก ปูปลามากไม่มา (หมายถึงไม่ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง  คนไม่มาคบหา (อาจจะกลัวไปรบกวนให้เดือดร้อน) ทานแกงบอนมักคันลิ้น”  (แกงบอน ทำมาจากการนำใบบอนมาต้มให้เปื่อยยุ่ยใส่แคบหมูหรือหนังวัวควายหั่นเป็นชิ้นที่ต้มจนเปื่อยแล้ว  ปรุงด้วยเครื่องแกง   ตอนทานพิษจากยางที่ตกค้างอยู่จะทำให้คันลิ้น)

ลำดับที่  13. “กันใคร่ต๋ายโหง  หื้อหมั่นขึ้นต้นไม้  กันใคร่ต๋ายเป๋นไข้   หื้อหมั่นนอนเมื่อวัน”

หมายถึง.....ควรระวังรักษาความปลอดภัย ดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว

การนำไปใช้     รักษาความปลอดภัย  เด็กๆไม่ควรซุกซนปีนต้นไม้เล่นอาจพลาดตกต้นไม้ ส่วนการใช้ชีวิต

ที่สุขสบายจนเกินไป (ชอบนอนกลางวัน)  ไม่ออกกำลังกาย  ร่างกายอ่อนแอ  มีโรคภัยเบียดเบียน  “ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย”

ลำดับที่  14. “กันเปิ้นก่ายขัว   ตั๋วเฮาแป๋งฮาว   ฟู่ฮ้างฟู่สาว  หื้อมันถูกอย่าง”

หมายถึง......ควรให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งและควรให้เกียรติผู้หญิง

การนำไปใช้      งานเพื่อส่วนรวม ควรช่วยกัน ไม่นิ่งดูดาย และการพูดคุยกับสตรีควรสุภาพ ไม่พูดจาลามก “สามัคคีคีอพลัง////ร่วมด้วยช่วยกัน”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “เขาสร้างสะพาน   เราช่วยทำราว  พูดจาหญิงสาว   ด้วยคำสุภาพ”

ลำดับที่   15.  “กันว่าจะมัด   บ่ต้องมัดด้วยป๋อ   กำปากกำคอ   มัดกั๋นก็ได้ ” 

หมายถึง.....คำพูดที่จริงจัง  มีความจริงใจ ทำให้ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกว่าสิ่งใด        การนำไปใช้       มีความจริงใจต่อกันเทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)   “คิดจะผูกมัด ไม่ต้องใช้เชือกปอ  คำพูดความชอบพอ ก็มัดกันได้”

ลำดับที่   16. “กันเฮาเป๋นดี    มีเก้าป้าสิบป้า    ไหลตวยมา    บ่จ๊า    กันจ๊ะต๋าลง  พันธุ์พงษ์ปี้น้า

บ่เหลียวหน้า  มาใจ   เปิ้งปี้ ก็เจ็บต๊อง เปิ้งน้องก็เจ็บใจ๋  กึ๊ดสังอันใด  ใจ๋ตั๋นตีบเสี้ยง

หมายถึง.....ยามมั่งมีพี่น้องมากมาย ยามอดอยากยากไร้ ขอความช่วยเหลือใครไม่ได้ 

การนำไปใช้  ขยันทำงานเก็บออมทรัพย์ไว้ใช้ยามขัดสน   หวังพึ่งผู้อื่นจะพบความลำบากใจ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ เมื่อมั่งมี  มากมาย  มิตรหมายมอง  เมื่อมัวหมอง  มิตรมอง  เหมือนหมูหมา  เมื่อไม่มี  มากมิตร  ไม่มองมา  เมื่อมอดม้วย  มิตรหมาหมา  ไม่มามอง”

ลำดับที่  17. “กั๊บตี้อยู่ได้   กั๊บใจ๋อยู่ยาก”  

หมายถึง..... คนเราถ้าผิดใจกันแล้วก็อยู่ร่วมกันยาก             

การนำไปใช้       มีความสมัครสมานสามัคคี  ไม่ทะเลาะกัน  ”

  “คับที่อยู่ได้  คับใจอยู่ยาก ”

ลำดับที่  18. “กลั๋วล้ำจ้างต๋าย  อายล้ำจ้างต้าว” 

หมายถึง....กลัวจนเกินไป  ประหม่าอายจนเกินเหตุ  อาจจะทำให้เกิดผลเสียกับตนเองได้

การนำไปใช้       ระวังตนอย่างมีเหตุผล อย่ากลัวจนไม่กล้าตัดสินใจ   “กลัวจนขี้หดตดหาย ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)  “กลัวเกินมักจะตาย  อายมากไปมักจะหกล้ม”

ลำดับที่  19. “ก้าบได้บินบ่ได้”  อ่าน (-ก้าบ-ได้-บิน-บ่อ-ได้-)

หมายถึง.....คิดวางแผนได้ทุกอย่างแต่นำไปปฏิบัติจริงไม่ประสบผลสำเร็จ

การนำไปใช้     อย่าท้อแท้  ใช้ความพยายาม  หาทางแก้ไข

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง  “คิดได้ทำไม่ได้ ///คิดทุกอย่างที่ทำ อย่าทำทุกอย่างที่คิด”

ลำดับที่  20.  “ก๋านจ๋ำเป๋น  ข้าวเย็นจ๋ำอุ่น”  

หมายถึง.....เกิดเรื่องเดือดร้อกับครอบครัวญาติมิตร ต้องรีบช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน  ช้าจะไม่ทันการณ์ 

การนำไปใช้      ควรรีบให้ความช่วยเหลือ  ก่อนที่จะเกิดความเสียหาย จนยากต่อการแก้ไข

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “หน้าสิ่วหน้าขวาน///อะไรสำคัญให้ทำก่อน ”

ลำดับที่  21. “ก๊าเต้าก็กิ๋นเต้าแมง   ก๊าแต๋งก็กิ๋นแต๋งเน่า”

หมายถึง.....เคราะห์กรรมในชีวิต ย่อมเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน ต้องทำใจยอมรับสภาพและหาทางแก้ไข        

การนำไปใช้       ยอมรับสภาพชีวิต  เข้าใจและหันหน้าสู้  อย่าท้อแท้  หมดกำลังใจ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เคราะห์หามยามร้าย”

ลำดับที่  22. “ก๋ามะตัณหา  ปาหื้อล่วงล้ำ   บังเกิดไหม้สันดาน”

หมายถึง....การหมกมุ่นหลงใหลอยู่ในวังวนกิเลส  ตัณหา  รัก โลภ โกรธ  หลง ทำให้ชีวิตไม่เจริญรุ่งเรือง  กำบ่าเก่าจึงว่า     “ก๋ามะตัณหา ปาหื้อล่วงล้ำ  บังเกิดไหม้สันดาน” 

การนำไปใช้       ควรดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม  ไม่หมกหมุ่นในกิเลส ตัณหา  

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “หมกมุ่นกามตัณหา  พาจิตร้อนรุ่ม  ดังมีไฟสุม   เดือดร้อนวุ่นวาย”

ลำดับที่  23. “ก๋ำพร้าแม่ตี๋นแขวน    ก๋ำพร้าป้อยังแควน”

หมายถึง.....ความลำบากเมื่อขาดบิดา  มารดา

การนำไปใช้       ให้รับสภาพความเป็นจริงแล้วอดทนต่อสู้ชีวิตกับญาติมิตร พี่ ป้า น้า อา

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก  ขาดแม่เหมือนแพแตก ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ขาดแม่ไม่มีที่ยืน  ขาดพ่อยังพอทน”   (เป็นลูกถ้าขาดพ่อ    แม่ก็อดทนเลี้ยงดู  ถ้าขาดแม่  พ่ออาจมีภรรยาใหม่  ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ลูก)

ลำดับที่  24. “กิ๋นง่ายจ่ายอ่วย   มักเป็นคนตุ๊กข์   กินจิ๊กิ๋นจ๋ำ   หมั่นฮิหมั่นฮอม   มักจะเป๋นคนมี”

หมายถึง.....คนเก็บออมทรัพย์ที่หามาได้จะร่ำรวย คนใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายจะยากจน       

การนำไปใช้      รักษาทรัพย์ที่หามาได้  ไว้ใช้ในยามจำเป็น

เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง  “ยังไม่รวย ทำตัวรวย จะไม่รวย ยังไม่จน ทำตัวจน จะไม่จน”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ใช้จ่ายเกินตัว  มักจะยากจน  กินอยู่แย่างประหยัด มั่นออม จะร่ำรวย”

ลำดับที่  25.   “ก๋ำขี้ดีกว่าก๋ำตด” 

หมายถึง.....ได้บ้างนิดๆหน่อยๆ ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย     

การนำไปใช้      ควรมีความพอใจในสิ่งที่ได้  แม้ไม่มากนัก  ถ้านำไปใช้ประโยชน์ได้  ควรยินดีรับไว้

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง     “กำขี้ดีกว่ากำตด///สิบเบี้ยใกล้มือ” 

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “กำขี้ดีกว่ากำตด”

ลำดับที่  26.   “กิ๋นของเปิ้น   ไว้ของตั๋ว” 

หมายถึง.....คนเห็นแก่ตัว 

กำบ่าเก่าจึงว่า    “ กิ๋นของเปิ้นไว้ของตั๋ว ” 

การนำไปใช้      อย่าเห็นแก่ตัว   “ขี้ไม่ให้หมากิน”

ลำดับที่  27.   “กิ๋นคนเดียวเผี้ยวตึงหมู่”   

หมายถึง.....ตนเองไปก่อเรื่องไว้ ญาติพี่น้องหรือผู้ใกล้ชิดต้องมารับผิดชอบ  สะสางปัญหาแทน            

การนำไปใช้       อย่าไปก่อเรื่องเสื่อมเสีย  ให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อนมาคอยแก้ปัญหาให้

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เอาตัวไม่รอด”

ลำดับที่  28. “กิ๋นได้เอาไว้ในไห   กิ๋นบ่ได้เอาไว้ในใจ๋”

หมายถึง.....เรื่องที่จะก่อให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง  เกิดขัดแย้งกัน ไม่ควรนำมาเป็นหัวข้อสนทนาพูดคุย      

การนำไปใช้        พูดจาในเรื่องที่สร้างสรรค์

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “น้ำขุ่นไว้ใน  น้ำใสไว้นอก”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)    “ทานได้เก็บไว้ในไห  ทานไม่ได้เก็บไว้ในใจ”

ลำดับที่  29.  “กิ๋นต๋างลี้ขี้ต๋างยั้ง” 

หมายถึง.....คนโกหกตอแหลหาข้ออ้างเพื่อหลบงาน 

การนำไปใช้       อย่าประพฤติตนเอาเปรียบผู้อื่น  ไม่โกหกตอแหล อ้างโน้นอ้างนี่เพื่อหลบเลี่ยงการทำงาน

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “รู้หลบเป็นปีก  รู้หลีกเป็นหาง”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ไปกินเพื่อหลีกหนี  ไปขี้เพื่อจะหยุด”

ลำดับที่  30.  “กิ๋นบ่จ้างก็เป็นหนี้   ขี้บ่จ้างขี้ก็เป๋นกำ   ทำบ่ดีเปิ้นก็เล่า”

 หมายถึง.....ใช้จ่ายเกินฐานะตนทำให้เป็นหนี้  ประพฤติตนไม่ดี  คนทั่วไปย่อมนินทา   

กำบ่าเก่าจึงว่า     “กิ๋นบ่จ้างก็เป็นหนี้  ขี้บ่จ้างขี้ก็เป๋นกำ  ทำบ่ดีเปิ้นก็เล่า”   การนำไปใช้  ทำความดี

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “กินใช้ไม่เป็นก็เป็นหนี้     ทำไม่ดีคนก็นินทา”

ลำดับที่  31. “กิ๋นหลายต๋ายคนเดียว” 

หมายถึง....หารายได้คนเดียว  แต่คนช่วยใช้จ่ายหลายคน  กำบ่าเก่าจึงว่า   “กิ๋นหลายต๋ายคนเดียว”        

การนำไปใช้    ควรรู้จักประกอบอาชีพ  หารายได้  มาช่วยเหลือจุนเจือหรือแบ่งเบาภาระในสิ่งที่ทำได้

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “คนกินมากมายแต่ตายคนเดียว”

ลำดับที่  32.  “กิ๋นข้าวหื้อไว้ต่าน้ำ”

หมายถึง.....ควรวางแผนไว้ล่วงหน้า  เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่เรารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น 

การนำไปใช้       ควรเตรียมวางแผนรับสถานการณ์ล่วงหน้า

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เผื่อเหลือเผื่อขาด”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ทานอาหารควรเผื่อท้องไว้ดื่มน้ำ ”

ลำดับที่  33. “กิ๋นเมื่อใจ๋ยัง   กิ๋นเมือดังสาบ”   

หมายถึง....รู้จักหาสิ่งดีๆเพื่อตนเองยามที่ยังแข็งแรง ยังมีความต้องการ ร่างกายไม่เจ็บป่วย

การนำไปใช้     ใช้จ่ายเงินเพื่อความสุขในชีวิตอย่าขี้เหนียว ยามชราเจ็บไข้ แม้ทานอาหารเลิศรส ก็ไม่อร่อย 

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง    “ทานตอนยังมีลมหายใจ  ทานตอนที่จมูกยังได้กลิ่น”

ลำดับที่  34. “กิ๋นแล้วลืมอยาก  ปากแล้วลืมกำ” 

หมายถึง.....คนไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาคำสัญญาที่ให้ไว้

การนำไปใช้  ให้ยึดมั่นในคำสัญญา   มีสัจจะในคำพูด

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ไร้สัจจะ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “ทานแล้วลืมอยาก  พูดแล้วลืมคำ” 

ลำดับที่  35. “กิ๋นหื้อปอคาบ   หาบหื้อปอแฮง    แป๋งหื้อปอใจ้   ไข้หื้อปอนอน”

หมายถึง.....การปฏิบัติในเรื่องต่างๆอย่างมีเหตุผล  มีความพอเหมาะพอดี  ไม่ขาดไม่เกิน

การนำไปใช้         มีความพอดี   ไม่ขาดไม่เหลือ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ความพอเพียง  พอประมาณ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)   “ทานอิ่มพอคาบ  หาบให้พอดีแรงตัว    ทำพอใช้  ป่วยให้พอนอน”

ลำดับที่  36.  “กิ๋นเหมือนเปิ้น   จะไปกิ๋นอย่างเปิ้น” 

หมายถึง....การรู้จักประมาณตนในการดำรงชีวิต   

การนำไปใช้     มีอาหารกินครบทุกมื้อเหมือนคนอื่น  อย่าไปก่อหนี้เพราะอยากกินอาหารแพงแบบคนรวย

ลำดับที่  37. “กิ๋นเต่าลืมคุณหมา   กิ๋นปล๋าลืมคุณแห”  

หมายถึง.....คนอกตัญญู ได้รับความช่วยเหลือ  ได้ผลประโยชน์แล้วลืมผู้มีพระคุณ   

การนำไปใช้     ควรมีความกตัญูญูต่อผู้มีพระคุณ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เสร็จนาฆ่าโคถึก  เสร็จศึกฆ่านายทหาร”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “กินเต่าลืมคุณของหมา  กินปลาลืมคุณของแห” (ไม่แบ่งเนื้อเต่าให้สุนัขที่ไปช่วยหาเต่าและเมื่อได้กินปลาก็ลืมแห  ไม่นำเอาไปผึ่งลมให้แห้ง  กลับกองหมกไว้ )

ลำดับที่  38.  “กิ๋นอิ่มแล้วหนี   กิ๋นพีแล้วป้าย” 

หมายถึง.....คนไม่มีความสำนึกในบุญคุณ  รับความช่วยเหลือแล้วจากไปอย่างไม่มีเยื่อใย 

การนำไปใช้       ควรมีความกตัญูรู้คุณ  อย่าเห็นแก่ตัว

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)   “ทานอิ่มแล้วหนี    อ้วนพีแล้วไป”

ลำดับที่  39.  “กิ๋นตานหยาดน้ำ   ทำบุญหลวงหลาย    จักได้สบาย    เกิดสุขปายหน้า”

หมายถึง....การหมั่นเข้าวัดทำบุญสุนทาน มีความเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่  จิตใจพบความสงบสุข     กำบ่าเก่าจึงว่า     “กิ๋นตานหยาดน้ำ   ทำบุญหลวงหลาย    จักได้สบาย    เกิดสุขปายหน้า”     

การนำไปใช้       เข้าวัดทำบุญทำทาน ใส่บาตร หรือให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้ 

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ทำบุญสุนทาน”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “ทำบุญทำทาน  จะสุขสบายในภายภาคหน้า  ”

ลำดับที่  40.  “กิ๋นอิ่มนอนบ่หลับ”

หมายถึง.....มีเรื่องกังวลใจจนนอนไม่หลับ อีกกรณีคือทานมื้อเย็นมากจนทำให้นอนไม่หลับเพราะจุกท้อง   

การนำไปใช้       ควรประพฤติตนดี จะได้ไม่มีเรื่องกังวลใจ   และทานอาหารมื้อเย็นไม่ควรทานอิ่มเกินไป  

ลำดับที่  41. “ กิ๋นแล้วหื้อเก็บ  เจ็บแล้วหื้อจ๋ำ ” 

หมายถึง.....การจดจำความผิดพลาดในอดีตไว้สอนใจตนเอง (เจ็บในที่นี้หมายถึงความผิดพลาดของตนเองที่เคยประสบมา มิได้หมายถึงเจ็บใจเจ็บกายจากการกระทำของคนอื่นแล้วจำไว้เพื่อการแก้แค้น )           

การนำไปใช้     นำความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียน  เพื่อการดำเนินชีวิตต่อไปในปัจจุบันและอนาคต

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เจ็บแล้วให้จำ” 

ลำดับที่   42. “กิ๋นหื้อปอต๊อง   หย้องหื้อปอตั๋ว    ป้อจายใคร่หัว   หื้อใคร่หัวดังๆ”

หมายถึง.....การปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเหมาะสม  สมศักดิ์ศรี  สมกับฐานะความเป็นอยู่

การนำไปใช้        ทำตัวเหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)   “ทานอิ่มแต่พอดี มีแต่งแต่พอตัว  หัวเราะดังให้  สมชายชาตรี

ลำดับที่  43. “เกิดตะวา    มืนต๋าตะเจ๊า   จะไปฟั่งแก่เฒ่ากั๋นเลย”

หมายถึง.....ยังหนุ่มยังสาวอย่าหมดกำลังใจ   หรือคิดท้อแท้ในชีวิต ควรใช้สติปัญญาต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค      

การนำไปใช้        ต้องหันหน้าสู้ชีวิต  ไม่ท้อแท้  ย่อท้อต่อความบากลำบากในการดำชีวิต

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ใจหนุ่มในร่างแก่  ดีกว่าใจอ่อนแอในร่างหนุ่ม”

ลำดับที่  44. “เกิดเป๋นคน   เข้าห้วยใดก็หื้อมันสุด   ขุดห้วยใดก็หื้อมันตึ๊ก”

หมายถึง.....การมีความมุมานะพยายามทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ทิ้งให้เป็นภาระกับผู้อื่นอีกต่อไป       

กำบ่าเก่าจึงว่า     “เกิดเป๋นคน เข้าห้วยใดก็หื้อมันสุด  ขุดห้วยใดก็หื้อมันตึ๊ก ” 

การนำไปใช้       ทำอะไรควรทำอย่างจริงจัง ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก   อดทนทำจนกว่าจะสำเร็จ

เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง   “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”

ลำดับที่  45.  “เก็บผักลวดหักหลัว   ตกขัวลวดอาบน้ำ” 

หมายถึง.....ถือโอกาสใช้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำหลายเรื่องราว(ที่ดีกับตนเอง)ในโอกาสเดียวกัน 

กำบ่าเก่าจึงว่า     “เก็บผักลวดหักหลัว   ตกขัวลวดอาบน้ำ”  

การนำไปใช้        ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชชน์ไม่เกิดเภทภัยก็ทำได้จะเป็นผลดีกับตัวเอง

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส”

ลำดับที่  46. “เก็บผักหื้อเอาตึงเครือ   เก็บบ่าเขือหื้อเอาตึงขวั้น”

หมายถึง....รู้คุณค่าสิ่งของที่มี ไม่ปล่อยทิ้งไว้  นำมาพร้อมกันพิจารณาว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ใดได้บ้าง        

การนำไปใช้       คัดเลือกสิ่งต้องการไว้สิ่งที่นำมาด้วยถ้าเหลือ  พิจารณาว่าจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เผื่อเหลือเผื่อขาด”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)  “เก็บผักเอามาทั้งเครือ    เก็บมะเขือเอามาทั้งขวั้น

ลำดับที่  47. “กำขอแปงเหลือกำซื้อ   กำลือแปงเหลือกำอู้”

หมายถึง.....การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นย่อมเป็นหนี้บุญคุณตลอดไป ถ้าเราใช้เงินซื้อก็ไม่ติดบุญคุณ ส่วนคำเล่าลือจะน่าสนใจกว่าคำพูดทั่วไป   

การนำไปใช้     ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่าชอบพึ่งพา  หรือไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น  เพราะต้องเป็นหนี้บุญคุณเขา และอาจได้รับการดูหมิ่นเกลียดชัง  ส่วนคำเล่าลือนั้นอย่าเพิ่งปักใจเชื่อ  ให้ฟังหูไว้หู 

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง ขอมีราคาแพงกว่าซื้อ   คำเล่าลือน่าสนใจกว่าคำพูด(ทั่วไป)” 

ลำดับที่  48. “กำจ่มกำด่า นั้นเป๋นกำดี   ถ้าฟังบ่ถี่    มันตึงบ่ม่วนหู”

หมายถึง.....คำชึ้แนะ สั่งสอนของผู้อาวุโสไม่น่ารับฟัง แต่ถ้าคิดตามแล้วนำไปปฏิบัติจะมีประโยชน์

กำบ่าเก่าจึงว่า     “กำจ่มกำด่า นั้นเป๋นกำดี  ถ้าฟังบ่ถี่  มันตึงบ่ม่วนหู”  

การนำไปใช้       เปิดใจน้อมรับคำสั่งสอน และนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับตนเอง  ครอบครัว  สังคม

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “คำบ่นคำด่านั้นเป็นคำดี  ถ้าไม่ใส่ใจรับฟัง  มันไม่ไพเราะหู”

ลำดับที่  49. “กำติเตี๋ยน   สำเนียงจ่มส้าม   ย่อมจะมีมากู้ทิศ”

หมายถึง.......ถ้อยคำตำหนิต่อว่า  การนินทาผู้อื่น จะให้หมดไปคงเป็นไปไม่ได้  

การนำไปใช้       รู้จักปลง ให้อภัย ปล่อยวาง    อย่าโต้ตอบให้เรื่องลุกลาม

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “คำติฉินนินทา  คำบ่นด่าว่ากล่าวย่อมมีมาจากทุกทิศทาง”

ลำดับที่  50. “กำฟู่เก๊า   เอาตุมตี้ไหน  เอาก๋ำใส่ไฟ   ฤาไหลน้ำกว้าง”

หมายถึง.....คนที่พูดแล้วลืมคำ  ไม่รักษาคำสัญญา 

การนำไปใช้       ให้เป็นคนมีสัจจะในคำพูด ไม่ใช้คำพูดหลอกลวงผู้อื่น

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ลืมคำสัญญา”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)  “คำพูดแต่แรก เอาปทิ้งที่ไหน   จับโยนลงไฟ หรือปล่อยไหลน้ำกว้าง”

ลำดับที่  51. “กำบ่มีไผบ่ว่า   บ่มีต้าควายบ่ลง   บ่มีต๋งบ่ได้ปู๋แป้น”

หมายถึง.....เรื่องที่ไม่มีความจริง คงไม่มีใครนำมาเล่าลือ

การนำไปใช้         ให้พิจารณาเรื่องเล่าลือต่างๆ  อาจจะมีความจริงก็ได้

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง ความเท็จใครจะว่า ตลิ่งไม่มีท่า ควายไม่ลง  ไม่มีไม้ตง ปูพื้นไม่ได้

ลำดับที่  52. “กำจ๋าหอมเป๊ตเปียงดอกไม้      ยามบิดจากขวั้นมาดม

หมายถึง.....วาจาที่ไพเราะอ่อนหวานเทียบได้กับความหอมหวลของดอกไม้ยามเด็ดจากขั้วมาดอมดม    

การนำไปใช้        ใช้คำพูดที่ไพเราะหวานหูกับทุกคน

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง     “คำพูดที่ไพเราะ เทียบได้กับความหอมของดอกไม้ที่เด็ดจากขั้วมาดม”

ลำดับที่  53. “กำบ่ดีบ่ควรเอามาเล่า   กำป๋างเก่าบ่ดีเอามายาย  ” 

หมายถึง.....เรื่องเท็จอย่านำมาเล่าลือ ข้อขัดแย้งเก่าๆอย่านำมาเติมแต่ง  ให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีก 

การนำไปใช้      ควรพูดในเรื่องที่สร้างสรรค์     

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง  “เรื่องไม่จริงไม่ควรนำมาเล่า ความขัดแย้งเก่าๆอย่านำมาเรียงร้อยคำ”

ลำดับที่  54. “กำบ่มีไผบ่ว่า   นกจับปล๋ายไม้ค่า   บ่ใจ้ตั๋วปู้ก็ตั๋วแม่”

หมายถึง.....ความเท็จคงไม่นำมาเล่าลือ

การนำไปใช้        ควรรับฟังเรื่องที่เล่าลือมา  อาจมีมูลความจริงอยู่บ้าง

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    “ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “เรื่องไม่จริงคงไม่มีใครว่า นกเกาะยอดไม้มะค่า ไม่ตัวผู้ก็ตัวเมียแน่นอน”

ลำดับที่  55. “กำกึ๊ดดี   ขายสลีนอนสาด”  

หมายถึง.....ก่อนจะตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ควรพิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย ว่าถ้าทำแล้วมีความคุ้มค่าหรือไม่             

การนำไปใช้       ดูว่าสิ่งที่เสียไปกับสิ่งที่ได้มาว่าคุ้มกันหรือไม่

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ได้ไม่คุ้มเสีย”

ลำดับที่  56. “กำปากว่าแต้    ใจ๋แผ่ไปหลาย   ปากว่าบ่ดาย    ใจ้ก๋านบ่ได้”

หมายถึง.....คนปากไม่ตรงกับใจ   คำพูดดีแต่ใจดำ    คนที่ดีแต่พูด    เป็นคนไม่น่าเชื่อถือ    

การนำไปใช้          อย่าแกล้งเพียงแต่พูดหรือรับไปให้พอพ้นๆแต่ไม่มีความจริงใจ  อย่าพูดดีแต่ใจดำ

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ ปากหวานก้นเปรี้ยว///ปากปราศรัยใจเชือดคอ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)  “พูดจริงทำจริงเป็นเรื่องดี  แต่ถ้าพูดแล้วไม่ทำใช้ไม่ได้” 

ลำดับที่  57.  “กำบ่มีบ่ดีแป๋งใส่   กำบ่ใหญ่บ่ดีแป๋งเอา    หมาสามตั๋วก็วายข้าว

เฒ่าสามย่าก็วายคัว    จุ๋มปลวกอยู่ยังนาว่าแสงข้าว     เฒ่าอยู่ยังเฮือนว่าแสงเฮือน

หมายถึง.....เรื่องไม่จริงอย่านำมาแต่งเติม   เรื่องเพียงนิดหน่อยไม่ควรนำไปขยายให้เกิดความขัดแย้ง อย่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น และควรมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ บิดา  มารดา  ปู่  ย่า  ตา  ยาย  

การนำไปใช้    เรื่องไม่จริง เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่านำมายุแหย่ให้เกิดเรื่อง ไม่ใช้จ่ายเกินจำเป็น ( เลี้ยงสุนัขสามตัว หรือมีภรรยาสามคน ) เราต้องกตัญญูต่อปู่ ย่า  ตา  ยาย  (  จอมปลวกเกิดบริเวณทุ่งนาถือเป็นมงคลของทุ่งนา มีปูย่า  ตายาย  ในครอบครัวถือเป็นมงคลในบ้าน  ควรดูแลเอาใจใส่  กตัญญูรู้คุณ )

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “เรื่องความเท็จ  อย่าเอ่ยออกปาก เลี้ยงสุนัขมากเปลืองข้าว ความจนรุมเร้า   ถ้ามีเมียแยะ  จอมปลวกกลางนาคือมงคลท้องทุ่ง ครอบครัวเจริญเรืองรุ่ง  เพราะดูแลปู่ย่าตายาย” 

ลำดับที่  58.  “กำส่อแป้กำยอ   สามหมออยู่เฮือนฮั่ว”

หมายถึง.....คำยุแยงมีผลทำให้คนโมโห หรือมีอารมณ์มากกว่าถ้อยคำสรรเสริญเยินยอ   

การนำไปใช้        อย่าใส่ใจในคำยุแยง   และไม่ควรเชื่อคำทำนายเกินไป

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “มากหมอมากความ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ยุแยงมีผล กว่าคำยกยอ ถามสามหมอ(หมอดู) ต้องอยู่บ้านรั่ว”

(บ้านหลังคารั่ว  หาฤกษ์ซ่อมแซม  ถามหมอดูสามคนบอกวันไหนก็ไม่ดี   ยังซ่อมไม่ได้ ต้องอยู่บ้านรั่ว)

ลำดับที่  59. “กำฟู่นักปราชญ์  เหมือนดาบสองคม  กำฟู่คนง่าวงม   เหมือนลมปั๊ดยอดไม้”

หมายถึง.....คำพูดของคนมีความรู้  มีสาระความหมาย มีความน่าเชื่อถือ นำไปตีความได้หลายแง่ หลายมุม ส่วนคำพูดของคนรู้น้อย มักหาสาระไม่ได้ 

การนำไปใช้         หมั่นหาความรู้  เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ปัญญารู้ด้วยการสนทนา”

ลำดับที่  60. “กำปากเหมือนดังผีสอน    ผ่อตี้นอนอย่างโหม้งกระต่าย”

หมายถึง.....คนพูดจาดีมีหตุผล น่าเชื่อถือศรัทธา แต่พฤติกรรมเบื้องหลังใช้ไม่ได้    

การนำไปใช้       ทำความดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ปากหวานก้นเปรี้ยว///ปากปราศรัยใจเชือดคอ”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)   “พูดเหมือนผีสอน ดูที่นอนเหมือนหลุมกระต่าย”

ลำดับที่  61. “กำขอแปงกว่ากำซื้อ  ควรจักยื่นหื้อ  ควรมีไมถี  คนจะยินดี  เพราะขอกั๋นได้”

หมายถึง....การไปขอนั้นมีราคาแพงกว่าไปซื้อเพราะต้องติดบุญคุณตลอดไป การเอื้อเฟื้อแบ่งปันต่อผู้ยากไร้  ทำให้มองเห็นว่าคนเรานั้นย่อมมีเมตตาต่อกัน สามารถขอกันได้  ไม่เห็นแก่ตัวจนเกินไป 

การนำไปใช้        ควรเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนยากจน  และถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่าขอใคร  ควรพึ่งตนเองก่อน

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-(คำไทยกลาง)  “ขอแพงกว่าซื้อ ควรเอื้อเฟื้อด้วยไมตรี   คนจะยินดี  เพราะขอกันได้”

ลำดับที่  62.  “ไก่เจ้าเล้าเป๋นใจ๋เหน”  

หมายถึง......รู้เห็นเป็นใจกับฝ่ายตรงข้ามมาทำลายพวกเดียวกัน    

กำบ่าเก่าจึงว่า     “ไก่เจ้าเล้าเป๋นใจ๋เหน”    

การนำไปใช้        อย่าไว้วางใจคนใกล้ชิดจนเกินไป ในเรื่องสำคัญๆเรื่องผลประโยชน์เงินทอง

เทียบสำนวนสุภาษิต คำพังเพยไทยกลาง  “หนอนบ่อนไส้//เกลือเป็นหนอน///ผีบ้านไม่ดี ผีป่าก็พลอย”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง   “ไก่เจ้าเล้าเป็นใจให้ตัวเห็น”]

ลำดับที่  63.   “แก่นต๋าตั๋วขวักออก    เอาแก่นบ่ากอกเข้ายัด”

หมายถึง.....มีสิ่งดีในตัว (ความรู้ ความสามารถ) ไม่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง กลับไปหมกมุ่น

กับอบายมุข  (สุรา  ยาเสพย์ติด  การพนัน )         

การนำไปใช้       รู้จักคุณค่าของตนเอง   ไม่ไปยุ่งเกี่ยวอบายมุข  ทำตัวน่ารัก  หมั่นศึกษาหาความรู้

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “เห็นกรงจักรเป็นดอกบัว/// เห็นผิดเป็นชอบ”

ลำดับที่  63. “ไก่สามเดือนปอฆ่า   ม้าสามเดือนปอฝึก” 

หมายถึง..... เพื่อให้ได้ผลประโยชน์เต็มที่ มีความคุ้มค่า ต้องรอเวลาที่เหมาะสม

การนำไปใช้      รอเวลาที่เหมาะสมเพื่อใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “ช้าๆได้พร้าสองเล่มงาม///ช้าเป็นการนานเป็นคุณ”

ลำดับที่  64.  “แก่ย้อนกิ๋นข้าว   เฒ่าเพราะเกิดเมิน”

ลำดับที่  65. “แก่ย้อนกิ๋นข้าว   เฒ่าเพราะปี๋เดือนวัน   บ่ได้สำคัญอยู่ตี้อายุ”

หมายถึง.....ผู้สูงอายุที่ไม่ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคมรอบข้าง  ทำตัวไม่เป็นที่น่านับถือ 

การนำไปใช้   หมั่นกระทำความดีอย่างสม่ำเสมอตลอดชีวิต

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “คนจะสวย  สวยที่ใจ  ใช่ใบหน้า  คนจะงาม  งามวาจา      ใช่ตาหวาน  คนจะแก่  แก่ความรู้   ใช่อยู่นาน  คนจะรวย  รวยศีลทาน   ใช่บ้านโต”

ลำดับที่  66. “กิ่วปูกิ่วดอยผ่อหัน    กิ่วคนไผผ่อบ่หัน”

หมายถึง.....โชค ลาภ วาสนา  ของคนไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้

การนำไปใช้      เรื่อง โชค ลาภ  วาสนา อย่าไปคิดแข่งขันหรืออิจฉา ควรขยันทำกิน

ลำดับที่  67. “กึ้มงึ้มดื่มใน  น้ำบ่ไหลเจี้ยวปื้น” 

หมายถึง.....คนที่เก็บงำความรู้ความสามารถไว้ พอมีโอกาสแสดงฝีมือออกมาก็เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป           

    การนำไปใช้     อย่าตัดสินความสามารถของบุคคลจากการดูรูปกายภายนอก   ต้องสังเกตจากการกระทำ

ลำดับที่  68.  “แกว่งตี๋นหาหนาม” 

หมายถึง....คนชอบรนหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตัวเองโดยใช่เหตุ    

การนำไปใช้      อย่าหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตนเอง  ครอบครัว  ญาติมิตร

   “แกว่งเท้าหาเสี้ยน///รนหาที่///เอามือซุกหีบ”

ลำดับที่  69. “เก้าแหลี้ยมสิบเหลี้ยม   บ่เต้าเหลี้ยมใบคา  เก้าหนาสิบหนา  บ่เต้าหนาความรู้”              

หมายถึง.....ความรู้มีความสำคัญต่อทุกคน  ต้องหมั่นศึกษาเพื่อใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเอง           

การนำไปใช้     หมั่นศึกษาหาความรู้   ( หนาความรู้คือมีความรู้มาก เมื่อมีความรู้มาก ย่อมมีช่องทางในการหาเลี้ยงตนเอง ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ สร้างฐานะครอบครัว )

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน”

เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “เก้าแหลมสิบแหลม แพ้แหลมใบคา เก้าหนาสิบหนา ไม่เท่าความรู้” 

ลำดับที่  70. “ไก่เกยจนคนเกยฟ้อน”  

หมายถึง.....เคยทำในเรื่องนั้นๆมาก่อนจนชินแล้ว เมื่อต้องทำอีกก็ไม่เคอะเขิน หรือรู้จักคุ้นเคยมาก่อนแล้ว    

การนำไปใช้      อย่าใช้ความคุ้นเคยทำเรื่องผิดศีลธรรมที่ดีงาม  เช่นการลักลอบมีสัมพันธ์กัน

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง    “วัวเคยขาม้าเคยขี่///ถ่านไฟเก่า”

ลำดับที่  71. “เก๊ามันเต้าเล่มเข็ม   ปล๋ายมันเต๋มแม่น้ำ”

หมายถึง.....เรื่องมีนิดเดียว นำไปขยายความยุแยงให้บานปลาย  ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเดือดร้อนไปทั่ว    

การนำไปใช้      ระวังจะเข้าใจผิดกันด้วยสาเหตุจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ  ควรสอบถามความจริงให้แน่ชัดก่อน

เทียบสำนวน  สุภาษิต  คำพังเพย ไทยกลาง   “บ่างช่างยุ///ยุแยงตะแคงรั่ว”